โรงแรมอัศวิน 25 มิ.ย.-เลขาฯ กกต. ยันไม่หมดท่าจับกลโกงเลือก สว. ลั่นไม่เกรงกลัว ไม่เกรงใจใคร ระบุส่ง จนท. ตรวจตามโรงแรมที่ผู้สมัครรวมตัว และพักที่เดียวกัน เผยตัวเลขรอบสุดท้าย เหลือ 2,995 คน ขาดคุณสมบัติถูกลบชื่อไป 5 ราย
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่าจับกลโกงในการเลือก สว. ที่ไม่ง่ายจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ กกต.หมดท่า ว่า การที่ตนเองสื่อสารไปเมื่อวาน คือรูปแบบการทุจริต หรือการรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อวานเป็นเรื่องการรวบรวมหลักฐานแต่กลับถูกตีความว่า กกต. หมดท่าหรือไม่กล้า ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่อยากจะสื่อออกไปคือ อยู่ในขั้นพยานหลักฐาน ไม่รู้สึกเกรงกลัวหรือเกรงใจใคร ตั้งแต่มีการเลือกระดับจังหวัดได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้มีสิทธิเลือกทุกคน จนเข้ามาสู่รอบเลือกระดับประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครผ่านเกณฑ์ระดับประเทศ 2,995 คน จากเดิม 3,000 คนโดยถูกตัดสิทธิเนื่องจากขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามที่ศาลฎีกาได้ตัดสินแล้ว โดยจะถูกลบชื่อไป 5 คน ส่วนการร้องเรียนระดับจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ 2-3 เหตุการณ์ และระดับจังหวัดอีกทั่วประเทศ เกือบ 20 คดีที่ได้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา ได้มีการยกคำร้อง และสื่อตามมติของ กกต. ดังนั้นจึงไม่มีผู้สมัครเพิ่มขึ้น มีแต่ผู้สมัครลดลง
นายแสวง กล่าวถึง การรวมกลุ่มของบรรดาผู้สมัคร สว.ที่มาพักโรงแรมเดียวกัน ว่าจะมี 2 เรื่องในเรื่องเดียวกันคือ ผู้สมัครมีสิทธิ์ พักโรงแรมเดียวกัน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง คนที่มาจากต่างจังหวัด ต่างพื้นที่กัน ทำไมมาอยู่ในโรงแรมเดียวกัน จึงเป็นเบาะแสว่า จะเกินกว่าการแนะนำตัวหรือไม่ ดังนั้นเมื่อวานนี้ กกต.ได้เข้าไปในโรงแรม 2 แห่งที่มีผู้สมัครพักอยู่ พบว่าเป็นการมาพบปะพูดคุยกันเพื่อแนะนำตัว โดย กกต. ได้ทำหน้าที่ทั้งกระบวนการป้องกัน รวบรวมพยานหลักฐาน หากเกิดการกระทำผิด หรือฝ่าฝืนกฎหมาย การจะให้ใบเหลืองใบส้ม หรือใบแดงต่างๆ ก็ต้องส่งสำนวนไปที่ศาลฎีกา จะเอาเพียงความเชื่อความเห็นอย่างเดียวไปให้ศาลไม่ได้ต้องมีหลักฐาน ที่ศาลพอจะเชื่อได้ว่ามีการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือก สว. ดังนั้น ขอย้ำว่าการรวบรวมพยานหลักฐาน บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากส่วนหนึ่งทำถูกกฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายระบุว่า การมารวมกันแล้วผิดก็เป็นเรื่องง่าย แต่สิ่งที่ผู้สมัครทำคือเรื่องที่ถูกกฎหมาย ครึ่งหนึ่งถูกกฎหมาย ส่วนอีกครึ่งจะผิดกฎหมายหรือไม่ อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานของ กกต.และพฤติกรรมของผู้สมัครด้วย โดย กกต.ได้ดำเนินงานเรื่องนี้มาโดยตลอด จึงอยากให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าไม่ได้ทำงานช้า ถึงยังไม่ได้หลักฐานในวันนี้ ก็อาจได้หลังจากนี้ และหากผ่านไปเป็น สว. ก็สามารถสอยภายหลังได้ ถ้ามีหลักฐานพยานครบถ้วน จึงฝากไปยังผู้สมัครทุกคนว่าหากมีเรื่องไม่ชอบมาพากล ก็สามารถส่งหลักฐานมาที่ กกต.เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าในทางการข่าวของ กกต.ได้รับร้องเรียนในทุกเรื่อง แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนกรณีที่ผู้สมัคร สว.ระดับประเทศตกรอบ แต่ในอนาคตไปรับตำแหน่งที่ปรึกษา หรือผู้ช่วย สว.นั้น จะสะท้อนว่ามีดีลลับหรือ ส่งประโยชน์กันหรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า ถือเป็นเบาะแสอย่างหนึ่ง และบอกเหตุอย่างหนึ่งว่าเป็นสมมติฐาน ว่ามีการแลกผลประโยชน์กันหรือไม่ ซึ่งอาจคำนวณเป็นตัวเงินได้ แต่กกต.ก็ต้องสืบต่อว่า เรื่องเช่นนี้มีการเชื่อมโยง ในการแลกเปลี่ยนกันหรือไม่ แต่จะเอาผลมาตัดสินเลยไม่ได้เพราะต้องให้ความเป็นธรรม กับทุกฝ่าย
สำหรับคืนนี้จะต้องจับตาเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า มีเรื่องของผู้สมัคร สว.ที่ไปชุมนุมกันตามโรงแรมต่างๆ นั้นอยู่ในบัญชีของ กกต. แล้ว การมาชุมนุมกันอาจเป็นเพียงการพบปะแลกเปลี่ยนเพื่อที่จะลงคะแนนในวันพรุ่งนี้ แต่อย่างน้อย กกต.ก็มีการสอดส่องเฝ้าดูอยู่ว่ามีสิ่งไหนทำผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้เมื่อตนพูดออกไปเช่นนี้ก็หวังว่าจะไม่มีการกระทำเกิดขึ้น
ขณะเดียวกันตามโรงแรมจะมีฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า ผู้สมัครเดินทางล่วงหน้า 2-3 วัน แล้วมาเข้าพักในหลายโรงแรม เมื่อมาอยู่ในโรงแรม เป็นที่สาธารณะก็มีการแนะนำตัวกัน แต่สิ่งที่ตกลงกันมาก่อน จะมีหรือไม่ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดคะเนได้ แต่อาจจะมีการนัดแนะ เพราะคนอยู่ต่างสถานที่ ก็ไม่น่าจะมาอยู่รวมกันที่โรงแรมเดียวกัน
เมื่อถามว่า กกต.หนักใจหรือไม่นายแสวงไม่ตอบคำถาม แต่ระบุว่าขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ว่าจะไปลงโทษใคร ซึ่งการดำเนินคดีหรือทำสิ่งใดก็ตาม ต้องมีพยานหลักฐาน และส่งทุกคดีไปยังศาลฎีกาเพื่อให้ศาลตัดสิน
เลขาธิการ กกต.ยังฝากไปยังผู้สมัคร สว.ว่าขอให้เดินทาง มาถึงเมืองทองธานีสถานที่เลือก สว.ระดับประเทศ เลยต้องเผื่อเวลา เนื่องจากการจราจรจะติดขัดเป็นอย่างมาก และหวังว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย.-319.-สำนักข่าวไทย