เลขาฯ กกต. เผยคำร้อง “นายกฯ-เพื่อไทย” อยู่ระหว่างรวบรวมพยาน

กทม. 14 พ.ย.-เลขาฯ กกต. เผยคำร้อง “นายกฯ-เพื่อไทย” อยู่ระหว่างรวบรวมพยาน ชี้ให้โอกาสทุกฝ่าย บอกคุณสมบัติ “ทนายตั้ม” ยังครบเป็นตัวสำรอง สว.ได้ ขณะคำร้อง “สว.หมอเกศ” ใกล้พิจารณาแล้ว แนะผู้ร้องเรียนระบุความผิดและหลักฐานให้ชัดเจน ไม่ใช่การตั้งคำถาม

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และคำร้องให้มีการยุบพรรคเพื่อไทย ว่า อยู่ในกระบวนการ เมื่อพูดถึงความยุติธรรมก็มีขั้นตอนในการให้โอกาสคน มาชี้แจงซึ่งในชั้นนี้ก็อยู่ในชั้นรวบรวมพยานหลักฐาน ที่ต้องสอบให้ครบจนสิ้นกระแสความ และให้โอกาสทั้งสองฝ่าย ตนไม่อาจจะบอกได้ว่าต้องใช้เวลากี่วัน เพราะตั้งแต่ตั้งคณะกรรมการสอบขึ้นมา ก็ยังไม่ได้มีการรายงานเพื่อขอขยายเวลา


ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงความคืบหน้าคุณสมบัติของนายษิทธา เบี้ยบังเกิด ในฐานะตัวสำรองสมาชิกวุฒิสภา ลำดับที่ 4 ของกลุ่มที่ 17 ว่า อยู่ในกระบวนการเมื่อมีคนร้องในเรื่องลักษณะต้องห้ามความเป็นสมาชิกวุฒิสภา ถ้าดูจากข่าวก็ต้องดูเรื่องเงื่อนเวลา เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อกฎหมายถือว่ายังมีคุณสมบัติ และยังอยู่ในบัญชีสำรองเป็นผู้มีคุณสมบัติและยังไม่มีลักษณะต้องห้าม จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ไม่ว่าศาลชั้นไหนก็แล้วแต่

สำหรับความคืบหน้ากรณีคุณสมบัติของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา นายแสวงกล่าวว่า สำนักงานได้เสนอให้กกต. พิจารณาแล้ว ซึ่งในการพิจารณามีคำร้องอยู่หลายข้อกล่าวหา สำนักงานได้มีการแยกข้อกล่าวหาเพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น โดยแยกไปคณะกรรมการสอบสวนหลายคณะ และเมื่อถึงขั้นตอนการพิจารณาต้องมาพร้อมกันทุกสำนวน ซึ่งขณะนี้กกต.ได้เร่งนำขึ้นมาพิจารณา ภายในสิ้นเดือนนี้


ส่วนคำร้องสมาชิกวุฒิสภาคนอื่นๆ ยังมีทั้งเรื่องของคุณสมบัติ และเรื่องการฮั้วเรากำลังตรวจสอบอยู่ บางเรื่องมีความซับซ้อน และต้องใช้เวลา เพราะกฎหมายเขียนไว้ชัด เมื่อกฎหมายเขียนไว้ชัดคนทำงานก็จะทำงานยากเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนคำร้องที่นายเรืองไกร วิกิจวัฒนะ ยื่นให้มีการตรวจสอบความเหมาะสมกรณีนายกรัฐมนตรีทำท่าชูมือมินิฮาร์ท ในระหว่างการถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้น นายแสวงกล่าวว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ซึ่งกรณีคำร้องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีการมาร้องเกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมืองกฎหมายเลือกตั้ง มีจำนวนมาก ทางกกต. อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในเรื่องพวกนี้แต่ถ้าจะมาร้องควรมีข้อมูลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นการตั้งคำถาม ส่วนมากคำร้องทุกเรื่องเป็นการตั้งคำถาม ซึ่งเป็นคำร้องที่อาจจะหลบเลี่ยงการฟ้องร้องกลับ แต่สำนักงานก็ไม่เคยทิ้ง แต่ก็ต้องทำงานเข้มงวดขึ้น ซึ่งในส่วนของรูปแบบของคำร้องอยากให้ผู้ร้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงว่ามีหรือไม่ ผิดกฎหมายมาตราใด ไม่ใช่ว่าผิดหรือไม่

พร้อมกันนี้นายแสวง ยังกล่าวถึงการร่วมประชุม กับคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ว่าได้มีการนัดหมายในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้หากตนไม่ติดภารกิจใดก็จะเข้าร่วม ให้ข้อมูลกับทางกรรมาธิการ.-315.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง