กทม. 24 มิ.ย.-เลขาฯ กกต. ยอมรับมีฝ่ายการเมืองเอี่ยวเลือก สว.ครั้งนี้ โดยสมยอมสมประโยชน์กัน ทำให้จับกุมได้ยาก รับมีร้องเรียนกลโกงเข้ามา แต่ย้ำว่าประกาศผลได้ตามไทม์ไลน์
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง 4 กลโกงในการฮั้วเลือก สว. ที่มีการเรื่องการเสนอเงินแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ กกต.จะสามารถดำเนินการเอาผิดได้หรือไม่ว่า เรื่องเหล่านี้ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ก่อนที่จะไปดูว่ามีมาตรการอย่างไรต้องยอมรับว่าเรื่องพวกนี้ไม่ได้ง่าย เพราะคนที่มีความรู้ทำผิด มีทั้งอำนาจ มีทุน มีทักษะและความรู้ ยิ่งเป็นเรื่องการเมือง ก็จะมีทั้งเครือข่ายและผู้สนับสนุน ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้ง กับการเมือง มีอยู่ทุกประเทศ ข้อมูลที่ได้รับมา มีทั้ง เป็นเบาะแส เรื่องเล่า และคนนำมาร้อง ดังนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ของ กกต.ว่า มีเวลาอีก 2-3 วันก่อนเลือกสว.ระดับประเทศ จะทำอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับจ้างสมัคร ให้เงิน ให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ถือเป็นความผิดทั้งนั้น กกต.ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีหลายฝ่าย เช่น ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดสืบสวนสอบสวน พนักงานของ กกต. หน่วยข่าวของตำรวจ ที่ทำงานร่วมกันเข้าไปดู ประมวลข้อมูลที่ได้มาว่าภายใน 2-3 วันนี้จะสามารถป้องปรามและจับกุมได้มากแค่ไหน
ส่วนกรณีที่มีข้อพิรุธการจองที่พักโรงแรมใกล้สถานที่เลือก สว. เพื่อล็อบบี้กันนั้น เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า เท่าที่ทราบผู้สมัครจองโรงแรมใกล้สถานที่เลือก แต่จะมีเหตุผลมากกว่านั้นหรือไม่เป็นเรื่องของสำนักงาน กกต. และผู้เกี่ยวข้องจะไปดูแล กกต.ได้ทำหน้าที่อยู่แล้ว ทั้งนี้เห็นว่าหากผู้สมัครต้องการเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้ยังยืนยันว่า การประกาศผลเลือก สว.จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ได้กำหนดไว้ แม้ว่าขณะนี้จะมีคำร้อง 333 เรื่องเข้ามาที่ กกต. โดยกว่า 200 เรื่อง เป็นเรื่องคุณสมบัติและการลงสมัครในกลุ่มที่รู้แล้วว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ซึ่ง กกต.ได้วินิจฉัยไปบางส่วนแล้ว โดยการลงผิดกลุ่มเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่ต้องรอ การวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม 2 วันที่ผ่านมามีผู้ร้องเพิ่มเข้ามา 39 เรื่อง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนวันเลือก สว. ระดับประเทศ ส่วนเรื่องทุจริตมีรวมประมาณ 90 เรื่องต้องใช้เวลา
ส่วนกรณีที่การเลือก สว. ครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง นายแสวงกล่าว ถ้าเป็นไปตามกฎหมาย สว. ต้องเป็นกลาง แต่ยอมรับว่าการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตามกฎหมายหากฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือช่วยเหลือจะถือว่า มีความผิด จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางทีการเมืองสมยอมสมประโยชน์กันทำให้เราเข้าถึงหรือจับกุมได้ยาก ส่วนเรื่องการร้องทุจริต มีเหมือนกับการเลือก สส.แต่น้อยกว่า
ขณะที่ผู้สมัครประท้วงระหว่างการ เลือก สว. นั้น นายแสวง กล่าวว่า ผู้สมัครสามารถที่จะไปร้องเรียนตามช่องทางโดยใช้สิทธิ์ได้เต็มที่ โดย กกต. จะเน้นการเจรจาจะไม่ใช้ตำรวจเข้ามาควบคุม หากเกิดความไม่พอใจก็ให้ใช้วิธีทักท้วงและใช้สิทธิ์ทางศาลหรือตามขั้นตอน แต่อย่าทำให้เวทีส่วนรวม เสียเวลา
นายแสวง กล่าวถึงการทำหน้าที่ของ กกต. ในวันเลือก สว.ระดับประเทศ 26 มิ.ย. หลังเปิดการอบรมเจ้าหน้าว่าได้ กำชับเจ้าหน้าที่ให้ตั้งใจทำหน้า โดยใช้ส่วนผสมจากส่วนกลาง มีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง มาจากกรุงเทพฯครึ่งหนึ่ง ผอ.กกต.จังหวัด และทีมงาน 20 จังหวัด คิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมา ที่อาจจะมีข้อติดขัดอยู่บ้าง ตั้งแต่ระดับอำเภอจังหวัดมาถึงระดับประเทศคาดว่าจะไม่มีปัญหา ซึ่งดูจากคำร้อง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. และ16 มิถุนายนที่ผ่านมา มีทั้งหมด 39 เรื่อง ถือว่าเป็นจำนวนไม่มาก ซึ่งระดับจังหวัดได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ต้องแม่นระเบียบ บริหารเวลาให้ดี เพราะหากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งช้า ก็จะทำให้กลุ่มอื่นช้าไปด้วย ยอมรับว่าไม่ได้กังวลเรื่องข้อกฎหมายแต่ในฐานะคนที่รับผิดชอบกระบวนการจะต้องรักษากระบวนการเลือก สว. คือรักษาเป้าหมายให้ได้ สว. 200 คน และเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด และรักษากระบวนการเลือก ซึ่งอาจทำให้มีผู้นำไปร้องว่ากระบวนการเลือก มีปัญหา อาจทำให้กระบวนการเป็นโมฆะได้ด้วย ดังนั้นจึงต้องพยายามบริหารสถานการณ์ และปิดช่องว่างเหล่านี้ และให้ผู้ปฏิบัติงาน จะรับทราบว่า ตัวเองทำหน้าที่อะไร จะได้สบายใจในการทำงาน.-319.-สำนักข่าวไทย