2 มิ.ย. – กมธ. อุตสาหกรรม ชี้เป็นเรื่องดีตำรวจจับผู้บริหารโรงงานกากอุตสาหกรรมไฟไหม้ได้แล้ว แต่ห่วงอีกโกดังใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จะเกิดเหตุซ้ำรอยหากมีการอายัดกากสารเคมี
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม และ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาโรงงานกากอุตสาหกรรมที่เกิดเหตุไฟไหม้ที่โกดังเก็บสารเคมี จ.ระยอง และ จ.อยุธยา ได้แล้วและนำตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง ว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาในกรณีนี้ ทำให้ประชาชนมีความสบายใจ
ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม ระบุอีกว่า สิ่งที่ประชาชนและกรรมาธิการอุตสาหกรรมยังมีความเป็นห่วง คือโรงงานเก็บกากสารเคมีอีกแห่งใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจากการประชุมร่วมกัน ของทางเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรรมาธิการอุตสาหกรรม ได้ทราบว่าที่โรงงานใน อ.อุทัย มีจำนวนกากสารเคมีอันตรายในปริมาณที่มากกว่าใน อ.ภาชี เสียอีก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมไปดำเนินการอายัดก็อาจจะเกิดเหตุไฟไหม้เหมือนกับอีก 2 โรงงานที่ผ่านมาได้อีก ดังนั้นเมื่อได้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการและรัฐมนตรีอุตสาหกรรมกำกับดูแลก็ทำให้ประชาชนอุ่นใจก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และสิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการต่อไปคือนอกจากให้มีการดำเนินคดีแล้ว ก็ต้องเฝ้าระวังที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาต่อไปด้วย รวมถึงควบคุมไม่ให้เกิดเหตุเพลิงไหม้กากเคมีอุตสาหกรรมที่มีลักษณะคล้ายกับจังหวัดระยองและอยุธยา
นายอัครเดช กล่าวต่อว่า จากการที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้มีการสำรวจโรงงานหรือโกดังที่มีการกองเก็บกากเคมีอุตสาหกรรมอันตรายทั่วประเทศนั้น ทำให้หน่วยงานราชการทุกส่วนมีความตื่นตัวในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าข้อสังการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ นี้จะเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และถือว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ ก็ต้องติดตามต่อไปว่าจะมีโรงงานในลักษณะนี้อีกมากน้อยเพียงใด.-312-สำนักข่าวไทย