หนุนสำเร็จ แม่ฮ่องสอน-ตรัง-อยุธยา ติดเทรนด์นักท่องเที่ยวทั่วโลก

กทม. 10 ส.ค.-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ หนุนสำเร็จ แม่ฮ่องสอน-ตรัง-อยุธยา ติดเทรนด์เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ค้นหาจุดหมายปลายทางและที่พักมากที่สุด รัฐบาลพร้อมกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ผนึกความร่วมมือเอกชน

ประชาสัมพันธ์โครงการ “Amazing Thailand 365 วัน มหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว” สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล เปิดเว็บไซต์จัดทริป ติดตามปฏิทิน/กิจกรรมท่องเที่ยวทั่วไทย ส่งเสริมการเที่ยวไทยได้ตลอดทั้งปี


นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลแนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศไทยจาก Airbnb แพลตฟอร์มการจองที่พักยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ซึ่งพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว โดยจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหลัก (เมืองน่าเที่ยว) เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น เป็นไปตามแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการขยายจุดท่องเที่ยวในประเทศ ให้มีจุดขายที่หลายหลาย ไม่เพียงแต่เมืองหลัก โดยจังหวัดใน 3 อันดับแรก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตรัง และอยุธยา รวมไปถึงภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ภาคใต้ตอนล่างและภาคอีสาน ล้วนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ รัฐบาลได้ร่วมกับ Line และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดโครงการ “Amazing Thailand 365 วัน มหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว” อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจัดทริปท่องเที่ยว โดยใช้เทคโนโลยี Generative AI ช่วยวางแผนการท่องเที่ยวให้เหมาะกับความต้องการ รวมทั้งติดตามปฏิทิน/กิจกรรมท่องเที่ยวทั่วไทย ได้ทางเว็บไซต์ https://amazingthailand365.tourismthailand.org พร้อมจัดโปรโมชั่นและดีลท่องเที่ยวราคาพิเศษ ให้สามารถเดินทางเที่ยวทั่วไทยได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 365 วัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลแนวโน้มการท่องเที่ยวในประเทศไทยจาก Airbnb ระบุว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวให้ความสนใจประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางและสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวนอกเส้นทางหลักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจุดหมายปลายทางใหม่ในไทยที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย 3 อันดับแรก ได้แก่


1)แม่ฮ่องสอน: จังหวัดทางภาคเหนือที่มีการค้นหาที่พักเพิ่มขึ้นถึง 149% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยความนิยมนี้ ส่วนหนึ่งมาจากอำเภอปายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ และกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย
2)ตรัง: จังหวัดทางภาคใต้ที่มีการค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น 143% มีชายหาดที่สวยงามและเกาะน้อยใหญ่ถึง 46 เกาะ โดยเฉพาะเกาะกระดาน จ.ตรัง ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นชายหาดที่ดีที่สุดในโลกจาก World Beach Guide 2023 นอกจากนี้ ตรังยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไดโนเสาร์ชื่อดัง “Jurassic World” ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับจังหวัดนี้
3)อยุธยา: อดีตเมืองหลวงของไทยที่เต็มไปด้วยโบราณสถานและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมากขึ้น

รวมไปถึง สตูล เพชรบุรี นราธิวาส ระยอง กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ และสงขลา ตามลำดับ (อ้างอิงจากข้อมูลการค้นหาที่พัก Airbnb ในไทยช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อเข้าพักในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2566 เทียบกับการค้นหาที่พักในไตรมาสแรกของปี 2567 เพื่อเข้าพักในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2567)

ขณะเดียวกัน จังหวัดในภูมิภาคอื่น ๆ ต่างได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เช่น ภาคใต้ตอนล่าง: โดยเฉพาะนราธิวาสที่มีการค้นหาที่พักเพิ่มขึ้นถึง 87% นักท่องเที่ยวให้ความสนใจกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ชายหาดที่สวยงาม และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และภาคอีสาน: กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ และสกลนคร มีการค้นหาที่พักเพิ่มขึ้น โดยกาฬสินธุ์มียอดการค้นหาเพิ่มขึ้นมากกว่า 80%


นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของการค้นหาที่พักบน Airbnb ซึ่งนักท่องเที่ยวมีการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการวางแผนท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับการดำเนินการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งล่าสุดได้ร่วมกับ บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอสินค้าและบริการผ่านเว็บไซต์ https://amazingthailand365.tourismthailand.org พร้อมฟังก์ชัน “ระบบจัดทริปท่องเที่ยว” ที่ใช้เทคโนโลยี Generative AI ช่วยวางแผนการท่องเที่ยวให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละคน และฟังก์ชัน “ปฏิทินท่องเที่ยว” รวบรวมข้อมูลกิจกรรมงานเทศกาล และแหล่งท่องเที่ยวในเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ รวมทั้งยังได้ร่วมมือกับ LINE Shopping รวบรวมร้านค้าของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 1,000 ราย พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษให้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ voucher ท่องเที่ยวได้ในราคาพิเศษ ได้แก่ 11 บาท 22 บาท 33 บาท 44 บาท และ 55 บาท ครอบคลุมสินค้าท่องเที่ยวหลากหลายประเภทจากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ ซึ่งจะจัดขึ้นทุกวันศุกร์ เริ่มตั้งแต่ศุกร์ที่ 23 สิงหาคม – 13 กันยายน 2567 นี้

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://amazingthailand365.tourismthailand.org เพจเฟสบุ๊ก: ข่าวสารท่องเที่ยว ททท. https://www.facebook.com/thaitourismnews และ LINE Official Account: @amazing365

“นายกรัฐมนตรีจับกระแสความนิยมด้านการท่องเที่ยวได้อย่างแม่นยำ กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยได้อย่างมีนัยยะสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขการท่องเที่ยวของปีที่แล้ว ทั้งมิติของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักท่องเที่ยวไทย และรายได้เข้าสู่ประเทศ ทั้งนี้ การสนับสนุนกลุ่มเมืองน่าเที่ยว และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นอีกเครื่องมือในการช่วยอำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวได้อย่างทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และเป็นการวางรากฐานประเทศไทยให้มีความพร้อมสู่ยุคดิจิทัลที่สมบูรณ์ รวมทั้งเป็นโอกาสผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (Tourism Hub) ของภูมิภาค และเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก” นายชัย กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย