สงขลา 17 ส.ค.-พ่อเจ้าของเต็นท์รถเล่านาทีลูกชายถูกคนร้ายบุกปล้นและจับขึ้นรถไปเพื่อจะยิงทิ้ง แต่ลูกชายรวบรวมสติใช้มือผลักก่อนวิ่งหนีจนรอดชีวิตมาได้
เหตุคนร้ายปล้นรถจากเต็นท์รถมือสองใน อ.นาทวี จ.สงขลา รวม 6 คัน และก่อเหตุยิงลูกจ้างของร้านได้รับบาดเจ็บ 1 คน เสียชีวิต 1 คน และรอดมาได้ 2 คน เมื่อวานนี้ ซึ่งหนึ่งในผู้รอดชีวิตคือ ธานีศักดิ์ ยี่จิน เจ้าของเต็นท์รถซึ่งขณะนี้ได้หลบไปพักในที่ปลอดภัยแล้ว ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจาก นายบุญธรรม ยี่จิน อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ นายธานีศักดิ์ เล่าเหตุการณ์ที่ลูกชายบอกถึงนาทีชีวิตให้ฟังขณะคนร้ายบุกเข้าปล้นเต็นท์รถและจับตัวเพื่อไปฆ่าปิดปากพร้อมลูกน้องรวม 4 คน ว่า ช่วงเกิดเหตุลูกชายไม่ได้อยู่ที่เต็นท์รถและได้โทรศัพท์ไปหาลูกน้องแต่ไม่มีคนรับสาย จึงขับรถจักรยานยนต์ไปดูที่เต็นท์รถแต่ไม่พบใครมีเพียงกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คน ที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่สวมเสื้อเขียนคำว่า POLICE ที่หน้าอก จึงถามว่ามาทำอะไรหนึ่งในคนร้ายบอกว่ามาขอตรวจทะเบียนรถลูกชายจึงขอดูบัตร แต่จังหวะนั้นได้มีคนร้ายอีกคนใช้ปืนตีเข้าที่สะบักหลังจนล้มลงก่อนจะถูกลากตัวไปรวมกับลูกน้องอีก 3 คน ที่ถูกจับมัดไว้แล้ว โดยคนร้ายได้มัดมือไพล่หลัง จากนั้นจึงรื้อค้นกุญแจรถยนต์ซึ่งแต่ละดอกได้ติดป้ายทะเบียนไว้แล้วทั้งหมด ก่อนจะทยอยขับรถออกไป และคนร้ายได้จับลูกชายและลูกน้องโยนขึ้นท้ายรถกระบะคันที่5 ขับออกไปโดยมีรถกระบะอีกคันขับปิดท้าย1 คัน และพูดว่าจะพาไปเผานั่งยางทั้งหมด จากนั้นคนร้ายได้เลี้ยวเข้าไปในพื้นที่หมู่8 บ้านควนหินเภา ต.วังใหญ่ อ.เทพา ระหว่างทางลูกชายได้ใช้กุญแจรถที่อยู่ในกระเป๋าช่วยกันตัดสายเคเบิลไทม์จนขาด เมื่อถึงที่เปลี่ยวห่างจากบ้านผู้คน คนร้ายได้ลงจากรถและลากลงมายิงทิ้งทีละคน
โดยคนแรกคือนายสหรัฐ ที่ถูกยิงจ่อหัวจนเสียชีวิต ส่วนคนที่2 คือ นายประทานพร ซึ่งคนร้ายได้ใช้สายเคเบิลไทม์รัดคอจนเกือบหมดสติและจ่อยิงซ้ำแต่โชคดีที่ไปถูกที่ไหล่และทำแกล้งตาย ส่วนลูกชายเป็นคนที่ 3 แต่ในจังหวะที่คนร้ายเอาปืนจ่อที่หน้าอกเตรียมเหนี่ยวไกยิงลูกชาย ซึ่งขณะนั้นยังทำทีว่ามือยังถูกมัดไพล่หลังอยู่ ได้ตัดสินใจในเสี้ยววินาทีผลักคนร้ายออกไปและวิ่งหนีไปแค่ 3-4 คน จึงนึกได้ว่ายังมีลูกน้องอีกคนคือนายวีระศักดิ์ ที่อยู่บนรถจึงได้ตะโกนเรียกให้วิ่งหนี จึงตั้งสติได้พากันวิ่งหนีตายไปคนละทางรอดมาได้อย่างหวุดหวิด และคนร้ายได้รีบขึ้นรถขับออกไปแต่ระหว่างนั้นยังถอยพยายามเหยียบหัว นายประทานพร แต่ก็ยังพอมีสติหลีกได้
นายบุญธรรม ยังบอกว่าอีกว่า ในเสี้ยววินาทีที่คนร้ายกำลังจะเหนี่ยวไกปืนยิงนั้นลูกชายบอกว่าได้นึกถึงหลวงปู่ทวดและรวบรวมสติและพลังครั้งสุดท้ายผลักคนร้ายออกไป และลูกชายยังบอกอีกว่าท่าทีของคนร้ายขณะก่อเหตุน่าจะอยู่ในอาการตื่นกลัวด้วยเพราะมือที่ถือปืนยังสั่นๆ อยู่ ลูกชายตนนับว่าเป็นคนโชคดีและดวงแข็งเพราะเมื่อปี56 เคยอยู่ในเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดร้านน้ำชาซึ่งอยู่ใกล้กับเต็นท์รถของลูกชาย และลูกชายนั่งอยู่ในร้านน้ำชาด้วยแต่ไม่เป็นอะไรขณะที่เพื่อนที่นั่งอยู่ติดกันขาขาด ฝากไปถึงกลุ่มคนร้ายให้ยุติก่อเหตุความรุนแรงทำร้ายผู้บริสุทธิ์.-สำนักข่าวไทย