กรุงเทพฯ 17 ส.ค.- กรุงเทพฯ 17 ส.ค.- 3 นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ร่วมทะเลาะวิวาทแทงนักศึกษาอุเทนถวายเสียชีวิตบนสกายวอล์คทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส ทนแรงกดดันของตำรวจไม่ไหวเข้ามอบตัวแล้ว โดยทั้งหมดปิดปากเงียบขอไปให้การในชั้นศาล
ชุดสืบสวนสน. ปทุมวันควบคุมตัวผู้ต้องหา 3 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ชั้นปีที่ 3 ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับสถาบันคู่อริย่านปทุมวัน โดยยกพวกทำร้ายกันบนสกายวอล์คทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสหน้าสนามกีฬาแห่งชาติ ทำให้นายชานน รุ่งเรือง อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับโดยชุดสืบสวนสอบสวนของสน.ปทุมวันได้ทำการติดตามจับกุมกดดันและประสานญาติของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จนกระทั่งทั้งยอมเข้ามอบตัวกับชุดสืบสวน โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย, ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและ พกพาอาวุธไปในเขตเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ไปทำการพิมพ์ลายนิ้วมือและทำประวัติ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนขอไปให้การในชั้นศาล และไม่ให้การซัดทอดไปถึงบุคคลอื่น
พันตำรวจเอก ภพธร จิตต์หมั่น ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะให้การประกันตัวหรือไม่ เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ทั้งนี้จากการสืบสวนสอบสวนยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องหรือร่วมก่อเหตุหรือไม่
ส่วนมาตรการป้องกันล่าสุดมีการนัดพูดคุยเจรจา 3 ฝ่ายระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เพื่อวางมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการทะเลาะวิวาทจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอีก โดยในวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายได้มีกลุ่มรุ่นพี่ที่จบการศึกษาไปแล้วพยายามเข้าไปพูดคุยกับนักศึกษาใหม่ อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมเดินขบวนไปตามเส้นทางต่างๆ ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มอาจารย์ทั้ง 3 สถาบันได้พยายามทำความเข้าใจและป้องกันไม่ให้กลุ่มนักศึกษาศิษย์เก่าที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมกิจกรรมหรือสอดแทรกแนวความคิดรุนแรงไม่ถูกต้อง และมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในและนอกเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มอาจารย์ฝ่ายปกครองลงไปสอดส่องดูแลในจุดเสี่ยงต่างๆ
เบื้องต้นจากการข่าวพบว่ายังไม่มีกลุ่มนักศึกษาของสถาบันใดเตรียมที่จะก่อเหตุล้างแค้น หรือเอาคืนจากแต่ละสถาบัน แต่เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและสายข่าวตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มศิษย์เก่าและนักศึกษาของทั้งสองสถาบันอย่างเข้มงวดหากพบความเคลื่อนไหวในการเตรียมจะก่อเหตุรุนแรงก็จากนำกำลังเข้าไประงับก่อนที่จะรวมตัวทันที.-สำนักข่าวไทย