คดีฆ่า “น้องพลอย” อุทาหรณ์กระบวนการยุติธรรมไทย

กรุงเทพฯ, อยุธยา 15 ส.ค.-กรณีลักพาตัวและอุ้มฆ่า “น้องพลอย” เป็นกรณีศึกษาล่าสุดที่กรรมการสิทธิมนุษยชนชี้ช่องโหว่กฎหมาย แม้จะให้แจ้งความคนหาย โดยไม่ต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมง แต่ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่มักมองเป็นคดีไม่ร้ายแรง และทิ้งเวลาไว้นาน จนหาเบาะแสได้ยาก หลายคนต้องกลายเป็นบุคคลสูญหาย



เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่นางพัชรี ปั้นทอง ออกตามหา น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือพลอย ลูกสาวซึ่งหายตัวไปตั้งแต่กลางปี 57 แม้จะมีหลักฐานและเบาะแสที่รู้ว่าใครเป็นผู้พาตัวลูกสาวไป แต่ก็ยังตามตัวไม่พบ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา แต่ถูกตั้งคำถามว่าลูกสาวอาจหนีไปกับเพื่อนชายคนสนิทหรือไม่ จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงาน เพราะคดีไม่มีความคืบหน้า กระทั่งตัดสินใจเข้าร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก่อนที่ตำรวจจะพบเบาะแสว่า ลูกสาวของเธอถูกฆ่าและเผานั่งยางในพื้นที่ จ.สระบุรี โดยมีอดีตทหารยศสิบเอก ซึ่งเป็นเพื่อนชายคนสนิทเป็นผู้ลงมือ


นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระบุว่าเมื่อเกิดกรณีบุคคลสูญหายและเข้าแจ้งความ ญาติของเหยื่อมักพบปัญหาจากการตั้งประเด็นของการหายตัวไปในเรื่องที่ไม่ร้ายแรง เช่น การหลบหนีเอง หรือมีปัญหาเรื่องชู้สาว ซึ่งคดีคนหายถือเป็นคดีที่ต้องรีบช่วยเหลือและต้องให้ความสำคัญกับช่วงแรกหลังหายตัวไป เพราะเหยื่อยังมีโอกาสรอดชีวิต และการทิ้งช่วงให้ผ่านไปนานจะทำให้การหาเบาะแสหรือแม้แต่การระบุตัวผู้ก่อเหตุเป็นไปได้ยาก


ขณะที่นักกฎหมายให้ความเห็นว่า คดีนี้ถือเป็นอีกตัวอย่างการร้องขอความเป็นธรรมจากครอบครัวผู้ตกเป็นเหยื่อในคดีหลักพาตัว หากให้ความสำคัญตั้งแต่ชั้นเริ่มต้น คือ การรับแจ้งความ และเร่งติดตามหาเบาะแสทันทีหลังเกิดเหตุ อาจทำให้การดำเนินคดีและกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไปได้เร็วขึ้น จนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย และหากผู้ต้องหามีตำแหน่งในราชการ ตำรวจยิ่งมักถูกตั้งคำถามจากสังคมหากคดีล่าช้า

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา พบว่า ตั้งแต่ปี 46-ปี 60 มีจำนวนคนหายทั้งหมดกว่า 6,000 คน และเป็นบุคคลที่สูญหายโดยถูกลักพาตัวกว่า 60 คน แม้กฎหมายจะเปิดช่องให้แจ้งความเมื่อคนหายได้โดยไม่ต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมง แต่ในทางปฏิบัติยังมีครอบครัวของเหยื่ออีกจำนวนไม่น้อยที่ยังถูกตั้งคำถาม เหมือนกรณีของ น.ส.พลอย และต้องกลายเป็นบุคคลสาบสูญ ตามตัวไม่พบโดยไม่ทราบสาเหตุไม่ต่ำกว่า 600 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง