สระบุรี 17 ส.ค.-วันนี้ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาอุ้มฆ่าเผาอำพรางศพกลางป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพใน 3 จังหวัด รวมทั้งหมด 10 จุด และเตรียมนำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 18 ในวันพรุ่งนี้
การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ทั้งหมด 10 จุด โดยไล่เรียงจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดสุดท้าย แต่ละจุดมีครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนจำนวนมากมารอดูการทำแผนฯ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัย ป้องกันการเข้าทำร้ายผู้ต้องหาอย่างเข้มข้น
ห่างจากปั๊มน้ำมันประมาณ 200 เมตร ตรงข้ามที่ทำงาน และเป็นปากทางเข้าบ้านผู้เสียชีวิต ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ผู้ต้องหานายพลกฤต วิเศษ หรือเอส ฉุดน้องพลอยขึ้นรถไปพร้อมกับจักรยาน โดยจุดนี้นางพัชรี และนายวิชา แม่และพ่อผู้เสียชีวิต มีโอกาสสอบถามผู้ต้องหาว่า เหตุใดจึงลงมือฆ่าบุตรสาวของตน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ นอกจากคำกล่าวขอโทษ พร้อมยกมือไหว้ ขณะนั่งอยู่ภายในรถ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่จุดทิ้งโทรศัพท์มือถือผู้ตายในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ก่อนจะขับรถไปต่อ ซึ่งระหว่างทางทั้งคู่มีปากเสียงกันตลอด กระทั่งถึงฝั่งตรงข้ามโรงเรียนวัดสร่างโศก ผู้ต้องหาได้จอดรถริมถนน และเอื้อมไปบีบคอเหยื่อซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลัง จนเสียชีวิต จากนั้นก็ไล่ทิ้งทรัพย์สินของผู้ตายตามจุดต่างๆ โดยจักรยานถูกทิ้งจากบนสะพานบ้านถนนใหญ่ลงน้ำในพื้นที่ อ.เมืองลพบุรี ส่วนกระเป๋าของผู้ตายถูกนำทิ้งถังขยะ และอีกจุดที่สำคัญคือ ภายในศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน ต.เขาพระงาม จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักบิดาผู้ต้องหา โดยจุดนี้ผู้ต้องหาได้มาเอายางรถยนต์และถังน้ำมันออกไปด้วย
จุดนี้ผู้ต้องหาได้อุ้มร่างผู้เสียชีวิตมาทิ้งริมถนนสายแก่งคอย-แสลงพัน บนเขากะบุด หมู่ 2 ต.ท่าค้อ อ.แก่งคอย จากนั้นได้นำยางรถยนต์มาวางทับร่างผู้เสียชีวิต ราดน้ำมันและจุดไฟเผา
ด้านแม้ของผู้เสียชีวิตที่ตามมาดูการทำแผนทั้ง 10 จุด เชื่อว่านายพลกฤต ไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว เนื่องจากมีพยานเห็นว่าผู้ต้องหามากับพวกรวม 3 คน ซึ่งจะเข้าให้รายละเอียดตำรวจพรุ่งนี้
หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพครบทั้ง 10 จุด ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหากลับไปควบคุมตัวที่ สภ.แก่งคอย และเตรียมฝากขังที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 18 ในวันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย