กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – สถานการณ์น้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณลุ่มน้ำก่ำและแม่น้ำมูลดีขึ้นตามลำดับ หลังกรมชลประทานเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง ส่วน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำภาคกลางมีปริมาณน้ำใช้มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ 4 เขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 11,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ดีกว่าช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ไม่มีปัญหาน้ำแล้งเหมือนปีที่ผ่านมา สำหรับปริมาณฝนที่จะตกระหว่างวันที่ 15-20 สิงหาคมนั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เป็นฝนมาจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ไม่ใช่พายุฝน ดังนั้น จะไม่สร้างปัญหาให้กับทุกพื้นที่ในประเทศไทยแน่นอน ส่วนกรุงเทพมหานครช่วงสัปดาห์นี้จะมีฝนตกประมาณร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์น้ำของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ พบว่าภายหลังจากที่กรมชลประทาน จัดจราจรน้ำในแม่น้ำชี-มูล และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มที่สะพานพิบูลมังสาหาร เหนือแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี รวม 38 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงเร็วขึ้น ส่งผลให้ขณะนี้ระดับน้ำที่สถานี M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตยเริ่มลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำสูงสุดได้ไหลผ่านไปแล้ว ขณะที่แม่น้ำชีที่ไหลผ่านเขื่อนธาตุน้อยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนลำเซบาย ซึ่งจะไหลลงสู่แม่น้ำมูลบริเวณสถานี M.7 มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน ทำให้โดยรวมหากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มระดับน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านสถานี M.7 จะลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป
ส่วนการช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำในเขต จ.อุบลราชธานี ตามข้อสั่งการของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมนั้น โครงการชลประทานอุบลราชธานีได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือนาข้าวที่มีน้ำท่วมขังประมาณ 30 ไร่ บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำหนองช้างใหญ่ ต.หัวเรือ อ.เมืองอุบลราชธานี และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่อง ช่วยระบายน้ำและลดพื้นที่การเกษตรเสียหาย บ้านผักกะย่า ม. 8 ต.ตระการ อ.ตระการพืชผล ประมาณ 600 ไร่ และอีก 2 เครื่อง บริเวณบ้านนาดี ม.1 และม. 4 ต.ท่าเมือง อ.ดอนมดแดง ลดพื้นที่การเกษตรเสียหายได้ประมาณ 800 ไร่
สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำก่ำ กรมชลประทานติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตลอดทั้งลำน้ำรวม 8 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำอีก 7 เครื่อง เร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ จ.นครพนมเร็วที่สุด ส่งผลให้สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำก่ำคลี่คลายดีขึ้น โดยเฉพาะหนองหารขณะนี้มีระดับน้ำต่ำกว่าระดับเก็บกักและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำก่ำท้ายประตูสุรัสวดีจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-4 วันนี้
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้วางแผนสนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ จากส่วนกลางลงไปเพิ่ม เพื่อเสริมศักยภาพการระบายน้ำในลุ่มน้ำมูลและลุ่มน้ำก่ำให้ลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งจะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตอนบนทั้งลุ่มน้ำก่ำและลุ่มน้ำชี-มูลเข้าสู่ภาวะปกติเร็วที่สุดในระยะต่อไป.-สำนักข่าวไทย