ชัวร์ก่อนแชร์: Lenacapavir ยารักษาโรคเอดส์หาย 100% จริงหรือ?

25 ธันวาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเอดส์เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่า Lenacapavir ยาต้านไวรัส HIV ที่ประสบความสำเร็จในการวิจัยด้านการป้องกันการติดเชื้อ HIV มีคุณสมบัติรักษาผู้ป่วยเอดส์ได้เกือบ 100% แต่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อปีสูงถึงกว่า 4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือปีละกว่า 1.5 ล้านบาท


บทสรุป :

1.Lenacapavir ใช้ในการบำบัดผู้ติดเชื้อไวรัส HIV และทดลองเพื่อการป้องกันไวรัส HIV ไม่ได้ใช้เพื่อรักษาให้หายจากการติดเชื้อไวรัส HIV
2.ผลการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ระดับ 100% เกิดขึ้นในการทดลองกับกลุ่มสตรีแอฟริกันหลักพันราย ยังไม่ทราบประสิทธิผลจากการใช้จริง
3.ยังไม่มีการรักษาการติดเชื้อไวรัส HIV ให้หายขาดสำหรับคนทั่วไป

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


Lenacapavir ยาต้านไวรัส HIV ชนิดใหม่สำหรับเชื้อดื้อยาหลายชนิด

Lenacapavir หรือชื่อทางการค้า Sunlenca เป็นยาต้านไวรัส HIV ที่ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ด้วยวิธีรีโทรไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูง (Highly Active Antiretroviral Therapy หรือ HAART) ซึ่งเป็นการใช้ยาต้านไวรัส 3 ชนิดขึ้นไปเพื่อช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสให้ได้ดีขึ้นและลดโอกาสการดื้อยาของไวรัสได้มากขึ้น

Lenacapavir เป็นทั้งยาสำหรับกินและยาฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) เมื่อปี 2022 เพื่อใช้บำบัดผู้ป่วย HIV ที่ดื้อยาต้านไวรัสหลายชนิด

Lenacapavir ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้าง Capsid (Capsid Inhibitor) ซึ่งเป็นโปรตีนชั้นนอกสุดที่ห่อหุ้ม RNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมของไวรัส HIV มีหน้าที่ในการแบ่งตัวของไวรัส การใช้ยา Lenacapavir ทำให้ไวรัสสร้าง Capsid ได้ไม่สมบูรณ์ นำไปสู่การหยุดวงจรชีวิตของไวรัส HIV

การทดลอง Lenacapavir เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV

มีการทดลองใช้ยา Lenacapavir เพื่อการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ในแบบ Pre-Exposure Prophylaxis หรือ PrEP ซึ่งเป็นการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ก่อนจะมีโอกาสสัมผัสเชื้อ

ผลการทดลองยา Lenacapavir สำหรับป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ในแบบ PrEP ได้รับการตีพิมพ์ทางวารสาร New England Journal of Medicine เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2024 พบว่าการฉีดยา Lenacapavir กับกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงปีละ 2 ครั้ง มีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV 100%

ต่อมามีการทดลองใช้ยา Lenacapavir ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ในแบบ PrEP กับกลุ่มตัวอย่างเพศชายและกลุ่มเพศทางเลือก ด้วยการฉีดยา Lenacapavir ปีละ 2 ครั้ง ผลการทดลองที่ตีพิมพ์ทางวารสาร New England Journal of Medicine เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2024 พบว่าประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ของยา Lenacapavir อยู่ที่ 96%

อย่างไรก็ดี ประสิทธิผลของยา Lenacapavir ยังอยู่ในขั้นของการทดลอง ยังไม่มีการอนุมัติเพื่อใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV แต่อย่างใด

นอกจากนี้ คุณสมบัติของยา Lenacapavir คือการบำบัดผู้ติดเชื้อไวรัส HIV และการทดลองเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV แต่ไม่ใช่เพื่อการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ตามที่กล่าวอ้าง

ดร.คอลลีน เคลลีย์ ผู้อำนวยการร่วมของศูนย์วิจัยโรคเอดส์ Emory Center เจ้าของงานวิจัยการใช้ยา Lenacapavir เพื่อการป้องกันไวรัส HIV ยืนยันว่ายา Lenacapavir ไม่ได้มีไว้รักษาโรคเอดส์ แต่ใช้เพื่อบำบัดผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส HIV ร่วมกับยาต้านไวรัสอื่น ๆ และการทดลองเพื่อใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV เท่านั้น

แพทริก แจ็กสัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ยืนยันว่ายา Lenacapavir ไม่ใช่ยารักษาผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ให้หายจากโรค เพราะเมื่อผู้ป่วย HIV หยุดใช้ยา Lenacapavir เพื่อการบำบัด ปริมาณไวรัสในร่างกายก็จะกลับมาสูงอีกครั้ง เช่นเดียวกับการใช้ยา Lenacapavir เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ในแบบ PrEP เมื่อหยุดใช้ยา ความเสี่ยงการติดเชื้อก็จะกลับมาสูงอีกครั้งเช่นกัน

ไม่มีการรักษาโรคเอดส์สำหรับคนทั่วไป

ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคเอดส์สำหรับคนทั่วไป มีเพียงการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว ด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูก โดยนำสเต็มเซลล์ของผู้บริจาคไขกระดูกซึ่งร่างกายเกิดการกลายพันธุ์ทำให้ไม่มีตัวรับเชื้อไวรัส HIV เข้าสู่เซลล์ เมื่อนำสเต็มเซลล์จากไขกระดูกมาปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่มีเชื้อไวรัส HIV จะเกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันไปทำลายเซลล์มะเร็งที่หลงเหลือในร่างกายของผู้ป่วยและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส HIV ในร่างกายเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การรักษาด้วยวิธีดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้กับผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ทุกราย และผู้ที่ผ่านการรักษาแล้ว ยังคงต้องใช้ยาต้านไวรัส HIV ในการบำบัดต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง

ปัจจุบันมีผู้รักษาการติดเชื้อไวรัส HIV ให้หายขาดด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูกเพียง 7 ราย โดยรายล่าสุดเป็นผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่รักษาตัวในเมืองมิวนิกเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา

แนวโน้มราคา ยา Lenacapavir

ตัวแทนของบริษัท Gilead ผู้ผลิตยา Lenacapavir ชี้แจงว่า ค่าใช้จ่ายของการใช้ยา Lenacapavir ที่ตกปีละ 4-4.5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมูลค่าของการใช้ยา Lenacapavir สำหรับการบำบัด ไม่ใช่มูลค่าของยาที่ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV เนื่องจากยา Lenacapavir สำหรับการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ยังอยู่ในขั้นการทดลอง จึงยังไม่อาจสรุปได้ว่าการใช้ยา Lenacapavir สำหรับการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV จะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

งานวิจัยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 พบว่า หากมีการนำยา Lenacapavir มาผลิตในรูปแบบยาสามัญ และเข้าถึงผู้ใช้ได้มากกว่า 10 ล้านคน มูลค่าในการใช้ยา Lenacapavir ต่อปีจะลดลงมาอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.5 พันบาทเท่านั้น

โดยพบว่า หากมีประชากรการใช้ยา Lenacapavir เพื่อการป้องกันการติดเชื้อไวรัส HIV ถึงหลัก 60 ล้านคน จะช่วยลดอัตราผู้ติดเชื้อไวรัส HIV ลงได้อย่างมาก

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส HIV ทั่วโลกแล้วกว่า 40 ล้านคน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2024/dec/11/instagram-posts/this-drug-helps-manage-infections-and-prevent-aids/
https://www.reuters.com/fact-check/hiv-drug-prevents-infections-not-new-cure-aids-2024-12-09/
https://eu.usatoday.com/story/news/factcheck/2024/12/11/drug-lenacapravir-hiv-cure-fact-check/76875410007/
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/news_week_full.php?id=1712
https://en.wikipedia.org/wiki/Lenacapavir

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]