กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพฯ บุกกลาโหม

กลาโหม 25 ธ.ค.-กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพฯ บุกกลาโหม ขณะ “บิ๊กอ้วน” ยืนยันความโปร่งใส ระบุสวัสดิการต่างๆ ของกองทัพต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ “ธนาธร” ร่วมวงแต่ หลบสื่อ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับ นาย จิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม และคณะกรรมาธิการฯ เพื่อติดตามการดำเนินงานของ กระทรวงกลาโหม พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆระหว่างกัน เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


โดย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังประชุม ว่าขอบคุณทุกข้อซักถามและข้อเสนอแนะ เนื่องด้วยเวลาอาจจะน้อยยังขาดอีกบางเรื่องที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกับปี๊บหนึ่งใบมองจากสิ่งเดียวกันจะมีทิศทางการมองที่ไม่เหมือนกัน เพราะว่าข้อเท็จจริงของแต่ละด้านอาจจะไม่ไม่ตรงกันไม่เท่ากัน แต่เรายินดีรับฟัง เพื่อมาประกอบการมองทุกอย่างให้ครบถ้วน โดยปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความโปร่งใสและเศรษฐกิจ ความมั่นคง สำหรับเรื่องของความโปร่งใสกระทรวงกลาโหมไม่มีปัญหาอยู่แล้วเราก็ยังจะทำทุกอย่างมีความชัดเจน ในเรื่องกฎหมายก็ต้องทำ ให้ครบถ้วนตามกฎหมาย อีกทั้งข้อสังเกตอื่นๆเราก็จะใช้เป็นข้อพิจารณาเพื่อให้ครบถ้วนรอบด้านมากยิ่งขึ้น รวมถึงผลประโยชน์ทั้งหลาย ตนเองคิดว่าเรารับฟังและเรานำมาทบทวนอะไรที่คิดว่าทำได้ ตนเองไม่มีปัญหาพร้อมเชื่อว่ากองทัพและผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ยอมรับในการพิจารณาในมิติที่โลกเปลี่ยนแปลงไปก็คิดทั้งนี้ ขอบคุณคณะกรรมธิการวิสามัญที่มามาเยี่ยมเราได้คุยกันว่าถ้าเรามีโอกาสได้คุยกันมองจากจุดท้ายและแลกเปลี่ยนกันก็จะเกิดบรรยากาศที่ดีไม่อยากให้เป็นบรรยากาศที่ตั้งแท่นกัน ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นพ้องกันว่าเราคุยกันได้มากขึ้นรับฟังความเห็นที่แตกต่างกันมากขึ้นและควรได้ข้อสรุปที่ดี สำหรับการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ โดย ตนเองมีความยินดีหากนัดพบกันเพื่อกินข้าวพูดคุยกัน

ขณะที่ นายจิรายุ กล่าวว่าวันนี้เดินทางมาในนามของประธานคณะกรรมาธิการ ได้ลงพื้นที่ไปดูเหนืออีสานกลางใต้ในธุรกิจของกองทัพโดยในวันนี้ได้มาพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพูดคุยถึงสภาพปัญหาที่พบเกี่ยวกับธุรกิจของกองทัพซึ่งวันนี้ถือมีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในเรื่องของไฟฟ้าที่อำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี โดยทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นอำเภอเดียวของประเทศไทย ที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้าของ การไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค ซึ่งวันนี้ในส่วนของกลาโหมมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก


นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของสนามบินดอนเมืองที่หลายคนได้ติดตามก็คือสนามกอล์ฟ ที่อยู่ใกล้เคียงกับสนามบินดอนเมือง โดยที่ที่ผ่านมามีข้อดำริว่า อยากส่งมอบคืนให้กับท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เนื่องจากในพื้นที่ตรงนั้น เป็นพื้นที่ของกองทัพอากาศ ซึ่งในวันนี้ได้มีการพูดคุยกัน เพื่อหาข้อยุติว่าถ้าส่งมอบคืนแล้ว อันไหนจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมากที่สุด และในเรื่องของความมั่นคงนั้น จะอยู่ระหว่างเศรษฐกิจ หรือ การขยายสนามบิน หรือ การเพิ่มจำนวนผู้โดยสารหรือไม่อย่างไร ส่วนที่สองก็คือสนามกอล์ฟทูปเตมีย์ คณะกรรมาธิการมีความเห็นว่าส่วนหนึ่งสามารถนำไปทำสวนสาธารณะได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกองทัพอากาศ โดยกองทัพอากาศก็ได้พิจารณาอย่างชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ของความมั่นคง ทั้งนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

อีกทั้งยังมีเรื่องอื่นๆ อาทิ เรื่องของสนามกอล์ฟ โรงแรมสนามมวย และเรื่องของกิจการน้ำมัน และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของเหล่าทัพ ซึ่งวันนี้ต้องขอขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้แทนจากกระทรวงกลาโหมที่มาชี้แจงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นนิมิตหมายอันดี เพื่อส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยที่มีกลไกในการทวงคืนของฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารธุรการ รวมทั้งต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการจัดกิจการสวัสดิการภายในหน่วยบางกิจการ ที่มีบุคคลทั่วไปเข้าใช้เป็นจำนวนมาก เป็น การจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ เพื่อให้มีความถูกต้องและเป็นไป ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔๗ และจำแนกประเภท การจัดสวัสดิการออกเป็น การจัดสวัสดิการภายในหน่วย และการจัดสวัสติการในเชิงธุรกิจอย่างชัดเจน

สำหรับนโยบายเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในการดูแลของเหล่าทัพ ซึ่งกองทัพมีที่ดินในความครอบครอง ดูแล และใช้ประโยชน์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 5.9 ล้านไร่ โดยส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งหน่วย พื้นที่ฝึก และดำเนินการตามภารกิจของกองทัพบก ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตและจัดให้เช่าแล้วบางส่วน และยังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ เนื้อที่รวมประมาณ 12 ล้านไร่เศษ อย่างไรก็ตาม หากพิสูจน์สิทธิแล้วพบว่า ประชาชนอยู่มาก่อนการเป็นที่ดินของรัฐ กองทัพเคารพสิทสิทธิดังกล่าว โดยประชาชนสามารถไปออกเอกสารสิทธิตามขั้นตอนได้ แต่หากพบว่าสิทธิในที่ดินเป็นของรัฐ กองทัพก็พร้อม ที่จะแก้ไขปัญหาโดยการให้ประชาชนยื่นขอเช่ากับ กรมธนารักษ์ ให้ถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายต่อไปในพื้นที่ที่กองทัพยังไม่ได้ใช้ประโยชน์


สำหรับที่ดินที่กองทัพไม่ได้ใช้ประโยชน์ คือที่ดินที่ส่วนราชการภายนอก ขอใช้ประโยชน์จากกองทัพ และที่ดินที่ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่ง พื้นที่ดังกล่าว กองทัพบก ต้องสงวนไว้ใช้ประโยชน์ สำหรับการฝึกในด้านต่างๆ ต่อไปในอนาคต เมื่อมีความจำเป็น การดำเนินการนำที่ดินไปให้ประชาชนเช่าใช้ประโยชน์ตามนโยบายรัฐบาล ในระยะที่ 1 ห้วงปีงบประมาณ 2567 เหล่าทัพได้ยินยอมให้กรมธนารักษ์ ได้นำพื้นที่ไปจัดให้ประชาชนเช่า เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และทำการเกษตรแล้วจำนวน 16,000 ไร่เศษ และปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการในระยะที่ 2 เนื้อที่รวมประมาณ 59,000 ไร่เศษ

ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า เดินทางมาด้วย แต่ได้หลบฉาก และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ สื่อแต่อย่างใด.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย