กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – “ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน
นายนพดล กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒินโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่ปรึกษามูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่องตำรวจของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,207 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเมื่อถามประชาชนถึงคุณสมบัติ (Spec) ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปที่ประชาชนต้องการ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 75.5 ระบุ ป็นคนซื่อสัตย์สุจริต รองลงมา ร้อยละ 71.4 ระบุ สร้างความสามัคคีในองค์กรตำรวจ ร้อยละ 68.2 ระบุไม่มีประวัติด่างพร้อย ไม่พัวพันกับเงินผิดกฎหมาย ร้อยละ 66.8 ระบุเข้าถึงประชาชน ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และร้อยละ 63.2 ระบุเร่งฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน ตามลำดับ
เมื่อถามถึงความรู้สึกเบื่อหน่ายข่าวนายตำรวจระดับสูงขณะนี้ พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 62.2 ระบุเบื่อมากถึงมากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 16.7 ระบุเบื่อค่อนข้างมาก ร้อยละ 9.4 ระบุเบื่อค่อนข้างน้อย และร้อยละ 11.7 ระบุเบื่อน้อยถึงไม่เบื่อเลย
เมื่อถามต่อถึงความเห็นต่อตำรวจที่ตกเป็นข่าวในทางลบกระทบภาพลักษณ์ขณะนี้ พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 89.9 ระบุตำรวจควรเร่งทำงาน สร้างผลงาน ความปลอดภัยของประชาชน รองลงมา ร้อยละ 74.1 ระบุเรื่องของตำรวจควรจบได้แล้ว และร้อยละ 72.8 ระบุตำรวจที่ตกเป็นข่าวควรชี้แจงว่าตนเองบริสุทธิ์อย่างไร
เมื่อถามถึงผลงานของตำรวจในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาที่ประชาชนรู้และพึงพอใจ พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 64.8 ระบุการติดตามจับกุมคนร้าย รองลงมา ร้อยละ 56.0 ระบุตรวจตราดูแลความปลอดภัยยามค่ำคืน ร้อยละ 54.5 ระบุการแก้ไขปัญหายาเสพติด ร้อยละ 53.3 ระบุช่วยเหลือทุกเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อน และร้อยละ 51.8 ระบุการปราบปรามเว็บพนัน มิจฉาชีพหลอกลวงออนไลน์ เป็นต้น
นายนพดล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนต้องการข้อมูลจำเพาะหรือสเปก (Spec) คุณสมบัติ 5 ประการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปคือ 1.ซื่อสัตย์สุจริต 2.สร้างความสามัคคีภายในองค์กร 3.ไม่มีประวัติด่างพร้อยเกี่ยวข้องกับเงินผิดกฎหมาย 4.เข้าถึงประชาชน ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และ 5.เร่งฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน
ที่น่าพิจารณาคือประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายต่อข่าวนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในขณะนี้ เพราะประชาชนอาจจะเห็นความชัดเจนในข้อมูลบางอย่างของเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว แต่อาจจะไม่เห็นว่าจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างไร นอกจากนี้ประชาชนต้องการให้ตำรวจเร่งทำงาน สร้างผลงาน ความปลอดภัยของประชาชน เรื่องราวของตำรวจในสื่อควรจบได้แล้ว เพราะประชาชนต้องการให้ตำรวจเป็น “ตำรวจของประชาชน” ที่มีหน้าที่และอำนาจหลักคือรักษาความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยของประชาชนมากกว่า
นายนพดล กล่าวว่า แม้หลายคนอาจจะคิดว่าองค์กรตำรวจกำลังล่มสลาย ศรัทธาของประชาชนลดลง แต่ขอเสนอมุมมองให้เห็นความเป็นจริงบางอย่างว่าตำรวจเป็นสถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์คู่แผ่นดินมาร่วม 170 ปีแล้ว ก่อเกิดขึ้นครั้งแรกเป็น “กองโปลิศ” ในสมัยรัชกาลที่ 4 นายตำรวจผู้ใดสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์นี้ก็จะร้อนรนใจ ทนอยู่ไม่ได้ และจะแพ้ภัยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางกระแสข่าวลบต่อสถาบันตำรวจ แต่ผลโพลพบว่าตำรวจส่วนใหญ่ยังทำหน้าที่เป็นตำรวจของประชาชน เพราะประชาชนยังคงพึงพอใจต่อการทำงานของตำรวจใน 5 อันดับแรก ได้แก่ การติดตามจับกุมคนร้ายการตรวจตราดูแลความปลอดภัยของประชาชนยามค่ำคืน การแก้ไขปัญหายาเสพติด การช่วยเหลือทุกเรื่องที่ประชาชนเดือดร้อน และการปราบปรามเว็บพนัน มิจฉาชีพหลอกลวงออนไลน์ ที่กำลังเห็นผลงานของตำรวจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตำรวจน้ำดีจะทนเห็นความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้จึงยังคงอดทนอดกลั้นกับกระแสข่าวลบต่อองค์กรตำรวจและกำลังมุ่งหน้ารุกฆาตจัดการกวาดล้างขบวนการมิจฉาชีพ และขบวนการที่เป็นภัยคุกคาม เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติและความปกติสุขของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ.-316-สำนักข่าวไทย