กรุงเทพฯ 11 ส.ค.-หลังจากที่ผู้เสียหายกว่า 4,000 คน เข้าร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีที่หลอกให้ลงทุนซื้อแพ็กเกจคอร์สสัมมนา ล่าสุดมีการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทได้ และรับคดีนี้เป็นพิเศษ
นี่เป็นหนึ่งในบริษัทลูก และแหล่งเงินทุนของนายภูดิศ กิตติธราดิลก ผู้ต้องหาที่เพิ่งถูกจับกุมในคดีฉ้อโกงแชร์ลูกโซ่คอร์สสัมนา มีผู้เสียหายกว่า 4,000 คน ที่ดีเอสไอระบุว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่เขาตั้งขึ้นมาเพื่อบังหน้า สร้างความน่าเชื่อถือ ชักชวนให้ร่วมซื้อคอร์สแพ็กเกจหลักสูตรทางการเงินกับบริษัท เดอะซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด และบริษัท อินโนวิชั่น โฮลดิ้ง จำกัด ที่แบ่งเป็น 5 แพ็กเกจ ตั้งแต่ 4,500-108,000 บาท ได้รับผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 7 ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี และจะได้เงินเพิ่มขึ้นอีก หากแนะนำผู้อื่นให้ร่วมลงทุน
ช่วงแรกสมาชิกได้ผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้ แต่สุดท้ายกลับหยุดจ่ายเงิน และติดต่อไม่ได้ สร้างความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ก่อนที่จะพบข้อมูลว่าเขาหลบหนีไปที่สิงโปร์ เมื่อ 18 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนถูกจับได้ในวันที่ 8 สิงหาคม ขณะเดินทางเข้าประเทศ ล่าสุด ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ซึ่งจะโอนสำนวนการสอบสวนที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ มาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และส่งสำนวนทั้งหมดให้อัยการ
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ระบุว่า จะต้องมีการติดตามเส้นทางการเงินของนายภูดิษเพิ่ม ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีทั้งหมด 18 บัญชี ทั้งบัญชีส่วนตัว และบัญชีบริษัท อีกทั้งขณะนี้พบธุรกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย
ดีเอสไอยังตรวจสอบพบว่า นายภูดิษ นำเงินไปแปลงเป็นทรัพย์สินอื่น เช่น ซื้อรถ และซื้อบ้าน รวมถึงถ่ายโอนให้ผู้อื่น ซึ่งจะถือว่าเข้าข่ายการฟอกเงิน โดยอยู่ในขั้นตอนการติดตาม แต่คาดว่ามีไม่มากพอที่จะจ่ายคืนให้ผู้เสียหายทุกคนได้.-สำนักข่าวไทย