ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดส่งออกปีนี้หดตัวร้อยละ 0.5

กรุงเทพ ฯ  27 ต.ค.  – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับมุมมองการส่งออกทั้งปี 2559 หดตัวที่ร้อยละ 0.5  จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าหดตัวร้อยละ 1.8


บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด  รายงานว่า มูลค่าส่งออกสินค้าไตรมาส 3 ปี 2559 ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส ที่ร้อยละ 1.2  ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าส่งออกสินค้าของไทยในเดือน ก.ย. 2559 อยู่ที่ 19,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4  เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้มูลค่าส่งออกสินค้าของไทย 9 เดือนแรกของปี 2559 อยู่ที่ 160,468 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือหดตัวที่ร้อยละ 0.7

สินค้าส่งออกหลักอย่างรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหาร ยังคงเป็นตัวหนุนให้การส่งออกสินค้าโดยรวมในไตรมาส 3 ขยายตัวได้ มูลค่าการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบในไตรมาส 3 ปี 2559 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 4.2  จากอานิสงส์การส่งออกรถยนต์นั่งไปยังตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียเป็นหลัก เช่นเดียวกับการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศที่เติบโตได้ร้อยละ 11.4  จากแรงหนุนจากการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน 5 ประเทศ ที่ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งออกอาหารแปรรูป โดยเฉพาะทูน่ากระป๋องที่ขยายตัวได้ร้อยละ 5.4  จากความต้องการของตลาดสหรัฐฯ และตะวันออกกลางเป็นหลัก


สำหรับการส่งออกสินค้าในเดือน ก.ย. 2559 ที่ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด นอกเหนือจากการส่งออกสินค้าหลักข้างต้นแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการส่งออกเคมีภัณฑ์ไปยังตลาดจีนที่พลิกกลับมาขยายตัวร้อยละ 5.6  จากที่เคยหดตัวในระดับสองหลักมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2559  ทั้งนี้ จากภาพเศรษฐกิจจีนที่ยังชะลอตัว รวมถึงการส่งออกของจีนที่ยังติดลบต่อเนื่อง ทำให้มองว่าการขยายตัวดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยชั่วคราว

ในช่วงที่เหลือของปี 2559 ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบาง โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นคู่ค้าหลัก ประกอบกับผลจากการส่งออกทองคำที่เริ่มผ่อนแรงลงตามราคาทองคำในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลง ยังเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกสินค้าของไทย แต่จากตัวเลขส่งออก 9 แรกของปี 2559 ที่ออกมาดีกว่าที่คาด รวมถึงทิศทางสินค้าส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และอาหารแปรรูป ที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องซึ่งส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับมุมมองการส่งออกทั้งปี 2559 น่าจะหดตัวที่ร้อยละ 0.5  ลดลงจากที่ประเมินไว้ว่าหดตัวร้อยละ1.8  .-สำนักข่าวไทย

 


 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง