วอชิงตัน 14 มี.ค.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า หากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐลงนามร่างกฎหมายห้ามใช้งานแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) ตามที่รับปากไว้ จะทำให้ไบเดนและพรรคเดโมแครตเสียเครื่องมือสำคัญในการหาเสียงกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนหนุ่มสาว
ทีมหาเสียงของไบเดนได้รับการกด “ถูกใจ” หรือไลค์ จำนวนมากจากการโพสต์คลิปในติ๊กต็อกเมื่อวันอังคารวิพากษ์วิจารณ์โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันที่เสนอตัดลดงบประมาณสวัสดิการสังคม แต่ในขณะเดียวกันมีคนแสดงความเห็นเรื่องร่างกฎหมายห้ามใช้งานติ๊กต็อกว่า คนเห็นคลิปนี้ในติ๊กต็อก แล้วพรรคเดโมแครตจะใช้ติ๊กต็อกหาเสียงอย่างไรหากมีการห้ามใช้งาน
นายแซมมวล วูลลี อาจารย์ด้านสื่อมวลชนชี้ว่า การห้ามใช้งานติ๊กต็อกเสี่ยงทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากไม่สามารถสื่อสารเรื่องการเมืองได้อย่างมีความหมายในช่วงที่การเลือกตั้งกำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ ดร.แอนโทนี ยอน ศัลยแพทย์เสริมความงามที่มีผู้ติดตามในติ๊กต็อก 8.4 ล้านคนมองว่า การห้ามใช้งานจะทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนหนุ่มสาวไม่มีสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้สำหรับติดตามข่าวสารและผู้คนที่ชื่นชอบ
ทั้งนี้เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) สหรัฐได้ผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายบังคับให้ไบแดนซ์ของจีนขายติ๊กต็อกในสหรัฐที่มีชาวอเมริกันใช้งาน 170 ล้านคน ไม่เช่นนั้นจะถูกห้ามใช้งาน ผลการศึกษาในปี 2566 ของศูนย์วิจัยพิวพบว่า ผู้อ่านข่าวสารสหรัฐผ่านติ๊กต็อกอย่างสม่ำเสมอ ร้อยละ 60 เป็นเดโมแครตหรือโน้มเอียงไปทางเดโมแครต ร้อยละ 19 เป็นคนผิวดำ ร้อยละ 30 เป็นคนพูดภาษาสเปน ร้อยละ 44 อายุ 18-29 ปี
ทีมหาเสียงของไบเดนเปิดบัญชีติ๊กต็อกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยใช้วันแข่งขันชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอลอาชีพประจำปีของเอ็นเอฟแอล (NFL) หรือซูเปอร์โบวล์เป็นวันเปิดตัว หวังเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนหนุ่มสาว ชื่อบัญชี @BidenHQ มีผู้ติดตาม 237,500 รายนับจนถึงวันที่ 13 มีนาคม ส่วนชื่อบัญชี @ thedemocrats มีผู้ติดตามมากกว่า 500,000 คน ขณะที่ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังไม่มีบัญชีติ๊กต็อกที่เป็นทางการ.-814.-สำนักข่าวไทย