สำนักงาน ส.ป.ก. 27 ก.พ.- “ธรรมนัส” เผย one map แล้วเสร็จ 33 จังหวัด กำลังจะเข้า ครม.11 จังหวัด แย้มเตรียมแถลงประเด็นใหญ่หลังประชุม ครม. ย้ำ ส.ป.ก. ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ติดเขต อช.เขาใหญ่ รวมถึงกรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมป่าไม้ทั่วประเทศ หากพบไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ดำเนินการโดยเคร่งครัด ย้ำไม่เลี้ยงคนผิด
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังมอบนโยบายให้แก่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดทั่วประเทศ ว่า หลังการประชุมครม.ตนจะแถลงข่าวในประเด็นใหญ่ ที่สังคมกำลังสนใจ เป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรต้องรอติดตาม
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างมอบนโยบายให้แก่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดทั่วประเทศ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวบางตอนว่า หลังจากที่ตนกลับมาร่วมงานในกระทรวงเกษตรฯ 5 เดือนที่ผ่านมา สิ่งที่ตนให้ความสำคัญที่สุดคือการเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งจากการลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านในหลายจังหวัด พบว่า ทุกคนล้วนดีใจที่จะได้มีโฉนดครุตเขียว ซึ่งเป็นโฉนดประวัตศาสตร์ แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าการทำงานย่อมมีอุปสรรคว่า จึงขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงาน โดยตนทราบปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา แต่การจะทำอะไรต้องยึดหลักกฎหมาย จึงขอให้ ส.ป.ก.ทั้ง 72 แห่งทั่วประเทศ ยึดกฎหมายเป็นที่ตั้งส่วนผู้กระทำผิดก็จะมีมาตรการลงโทษ
สำหรับพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่องที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นี้จะเป็นพื้นที่ที่ถูกหรือผิดยังไม่ได้มีการชี้ชัด เพราะปัจจุบันแต่ละหน่วยงานใช้แผนที่ของตนเอง และคิดว่าของตนเองถูกต้อง
ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้สั่งการโดยให้มีกรรมการกลางก็คือกระทรวงกลาโหมโดยมีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมเป็นประธานขับเคลื่อนแนวเขตของที่เป็นที่ดินรัฐ one map ซึ่งทำไปแล้ว 33 จังหวัด กำลังจะเข้าครม.11 จังหวัด เหลือ 33 จังหวัด ที่กำลังทำหนึ่งในนั้นก็คือพื้นที่รอบเขาใหญ่ โดยกรมแผนที่ทหารอยู่ระหว่างเร่งสำรวจแผนที่ที่ถูกต้อง โดยอ้างถึงพระราชกฤษฎีกากากำหนดบริเวณที่ดินเขาใหญ่ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2505 ซึ่งจะต้องรอกรมแผนที่ทหารชี้ชัดเพื่อจะได้ทราบว่า พื้นที่พิพาทในต.หมูสีเป็นของใคร
ส่วนนโยบายที่มอบให้แก่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดทั่วประเทศ ใน 4 ด้าน ตามที่ได้ลงนามคำสั่งด่วน ถึงเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เรื่อง นโยบายการดำเนินการบริเวณเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) กับเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้การดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้การบริหารจัดการพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน เหมาะสมตามหลักนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และบริบทความจริงของสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ดังต่อไปนี้
1) ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณพื้นที่ตามแนวเขตปฏิรูปที่ดินที่ติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และพื้นที่ต่อเนื่องว่าเป็นการจัดที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรแต่อย่างใด
2) จัดทำพื้นที่กันชน (Buffer Zone) ระหว่างพื้นที่ ส.ป.ก. พื้นที่อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยกันพื้นที่ดังกล่าวให้จัดทำเป็นป่าในเขตปฏิรูปที่ดิน
3) ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินบริเวณรอยต่อกับพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบที่ดินของรัฐอื่น ๆ โดยให้ดำเนินการทั่วทั้งประเทศ ว่ามีกรณีจัดที่ดินโดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือจัดที่ดินให้แก่เกษตรกรโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรแต่อย่างใด หากพบว่าการจัดที่ดินดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องโดยเคร่งครัด
4) เตรียมการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรหรีอที่ดินว่างเปล่ารองรับเกษตรกรกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีที่ดินทำกินโดยให้จัดสรรที่ดินให้กับกลุ่มเหล่านี้ตามระเบียบ ส.ป.ก. ต่อไป โดยให้ยึดถือตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด.-517-สำนักข่าวไทย