ซิดนีย์ 3 ส.ค.- ทางการออสเตรเลียฟ้องร้องคอมมอนเวลธ์แบงก์ ธนาคารใหญ่ที่สุดของประเทศข้อหาไม่ปฏิบัติตามอย่างร้ายแรงและเป็นระบบต่อกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและกฎหมายต่อต้านการให้ทุนสนับสนุนการก่อการร้าย
ศูนย์วิเคราะห์และรายงานธุรกรรมออสเตรเลีย (ออสแทรก) แถลงว่า ได้ฟ้องคอมมอนเวลธ์แบงก์ต่อศาลรัฐบาลกลางข้อหาละเมิดกฎหมาย 53,700 ครั้ง เนื่องจากล่าช้าในการรายงานธุรกรรมเงินสดตั้งแต่ 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียขึ้นไปที่เครื่องรับเงินสดอัตโนมัติ 53,506 ครั้งระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2555-กันยายน 2558 รวม 624.7 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 16,480 ล้านบาท) ล่าช้าหรือไม่รายงานธุรกรรมต้องสงสัย 77 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2,030 ล้านบาท) และไม่เฝ้าสังเกตลูกค้าหรือจัดการกับความเสี่ยงทั้งที่รู้ว่าอาจมีการฟอกเงิน
ด้านคอมมอนเวลธ์แบงก์ซึ่งเป็นธนาคารที่มีทุนจดทะเบียนมากที่สุดในออสเตรเลียแถลงชี้แจงว่า กำลังหารือกับออสแทรกและให้ความร่วมมือกับการสอบสวนอย่างเต็มที่ ปกติแล้วธนาคารจะรายงานธุรกรรมให้ออสแทรกเฉลี่ยปีละกว่า 4 ล้านครั้ง โดยจะตรวจสอบและต่อต้านธุรกรรมต้องสงสัยให้เร็วที่สุดและดีที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ทั้งนี้หากศาลชี้ว่ามีความผิด คอมมอนเวลธ์แบงก์อาจถูกปรับเป็นเงินก้อนใหญ่ ตามหลังแทบคอร์ป บริษัทพนันรายใหญ่ที่ถูกสั่งปรับ 45 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1,187 ล้านบาท) เมื่อเดือนมีนาคมโทษฐานละเมิดกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ทั้งหมด 108 กระทง.- สำนักข่าวไทย