ล่ามือสาดน้ำกรดผู้ช่วยพยาบาล หวังชิงทรัพย์

อุดรธานี 9 ก.พ. – อุกอาจ! คนร้ายซิ่ง จยย. สาดน้ำกรดผู้ช่วยพยาบาลแม่ลูกอ่อน ทำรถเสียหลักตกข้างทาง หวังชิงทรัพย์ แต่พลเมืองดีมาช่วยทัน เจ้าตัวเจ็บหนัก อาจตาบอด


ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณเส้นทางบ้านแดง-บ้านดงยาง จ.อุดรธานี จับภาพรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่ตามกันมา ซึ่งจะเห็นเป็นดวงไฟ ก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดคิด รถคันที่ตามหลังมาเป็นคนร้าย เมื่อถึงที่เปลี่ยว ก็สาดน้ำกรดใส่ นางสาววิภาวดี อายุ 43 ปี ผู้ช่วยพยาบาลห้องกายภาพบำบัด ที่ขี่รถนำหน้ามา จนเสียหลัก และพุ่งตกลงข้างถนนฝั่งตรงข้าม คาดว่าเป็นเหตุพยายามชิงทรัพย์ แต่โชคดีมีพลเมืองดีมาเห็นเหตุการณ์ จึงเข้าช่วยเหลือ ส่วนคนร้ายรีบหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นางสาววิภาวดี บาดเจ็บหนักจากน้ำกรดที่ถูกตามใบหน้า แขนขวา และต้นขาทั้ง 2 ข้าง จนเสื้อผ้าขาดเป็นรูรุ่งริ่ง ทีมข่าวเดินทางไปพบ เห็นร่องรอยบาดเจ็บเป็นรอยไหม้ที่ใบหน้า ตามร่างกาย แขนและขาทั้ง 2 ข้าง ส่วนที่น่าเป็นห่วงคือ น้ำกรดอาจทำลายเนื้อเยื่อดวงตาทั้ง 2 ข้าง อาจถึงขั้นพิการตาบอด หรือไม่ก็อาจจะมองเห็นไม่ชัด และแผลอาจจะติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิตได้ เบื้องต้น ผู้บาดเจ็บเล่าว่า หลังออกเวรเวลา 20.00 น. ขณะผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ไปตามเส้นทางบ้านแดง-บ้านดงยาง ห่างจากโรงพยาบาลประมาณ 1 กิโลเมตร คนร้ายขับขึ้นมาประกบด้านขวา แล้วสาดน้ำกรดใส่


นายคำพล อายุ 62 ปี พลเมืองดี เล่าว่า ขณะตนกำลังให้ข้าวสุนัข บริเวณหลังบ้านที่กำลังปลูกสร้างใหม่ ได้ยินเสียงรถชนกัน จึงวิ่งออกมาดูพร้อมกับสวมโคมไฟที่ศีรษะ และได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลืออยู่ร่องข้างถนนหน้าบ้านที่มืดมาก และพบคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม ผิวดำแดง สวมเสื้อคลุมแบบมีฮู้ดคลุมศีรษะไว้ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดพยายามเดินลงไปผู้บาดเจ็บในร่องข้างถนน พอเห็นตน คนร้ายก็ขึ้นรถหลบหนีไปทางบ้านดงยางอย่างช้าๆ ถามก็ไม่ตอบ คนร้ายคงโกรธตนที่ออกมาพบเห็นเหตุการณ์

ขณะที่ สามีของผู้บาดเจ็บ บอกว่า ภรรยาเพิ่งคลอดลูกสาวได้ 3 เดือน และเพิ่งมาทำงานแค่ 2 สัปดาห์ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน ทั้งที่ทำงานและข้างนอก

ด้านตำรวจจึงมุ่งประเด็นชิงทรัพย์ จากกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง และคนป่วยจิตเวชจากยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทีมตำรวจชุดสืบสวนจะสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง เพื่อหาเบาะแสในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง