กทม.ประกาศมาตรการป้องกันอันตรายช่วงตรุษจีน

กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – กทม.ประกาศมาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 อาทิ ตั้งจุดเฝ้าระวังอันตรายในช่วงเทศกาลตรุษจีน, ขอความร่วมมือใช้ธูปเทียนไฟฟ้า


นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและโฆษกของกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน นิยมทำพิธีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยการจุดเทียน ธูป การเผากระดาษเงินกระดาษทอง รวมถึงการจุดประทัดในบ้านเรือน หรือศาลเจ้า ซึ่งอาจทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครสูงขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงสภาพอากาศแห้งและแล้ง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน กรุงเทพมหานครได้ทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีนเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง ตลอดจนขอความร่วมมือสถานประกอบการและประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย

1.กรุงเทพมหานคร จัดตั้งจุดเฝ้าระวังอันตรายในช่วงเทศกาลตรุษจีน บริเวณจุดเสี่ยงทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับชุมชนที่มีความเสี่ยงหรือพื้นที่ล่อแหลมสูง สามารถเข้าระงับเหตุสาธารณภัยได้ทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ศาลเจ้า อาคารบ้านเรือน สถานที่จัดกิจกรรม เพื่อวางแผนออกแบบมาตรการจัดกิจกรรมอย่างปลอดภัย ตรวจสอบให้คำแนะนำเรื่องการใช้งานและจำนวนถังดับเพลิงที่มีอยู่ให้เหมาะสมกับพื้นที่ รวมถึงกำหนดเส้นทางเข้าออกเพื่อลดความหนาแน่นในพื้นที่จัดงานและเส้นทางอพยพประชาชนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยประชาชนสามารถตรวจสอบจุดติดตั้งถังดับเพลิงในชุมชนได้ในระบบแผนที่เสี่ยงภัยของกรุงเทพมหานคร (BKK Risk Map) หากเกิดเพลิงไหม้แจ้งสายด่วนศูนย์วิทยุพระราม โทร. 199 กรณีไฟลุกลามต้องรีบออกจากสถานที่เกิดเหตุทันทีเพื่อความปลอดภัยในชีวิต


2.ขอความร่วมมือศาสนสถานและประชาชนใช้ธูปเทียนไฟฟ้าแทนการจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดจนงดหรือลดการเผากระดาษเงินกระดาษทองเพื่อป้องกันและลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 หากจำเป็นต้องจุดขอให้ทำด้วยความระมัดระวัง โดยต้องมีภาชนะทนไฟรองรับ มีผู้ดูแลจนกว่าไฟจะดับสนิท และเผาในเตาเผาที่มีคุณภาพ หรือพื้นที่ที่ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญหรือควันฝุ่นจำนวนมาก รวมถึงการจุดประทัดต้องจุดในที่โล่งห่างจากเชื้อเพลิงและวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย หากจุดประทัดไม่ติดอย่าพยายามจุดช้ำ เมื่อจุดประทัดแล้วควรถอยออกมาอยู่ในระยะปลอดภัยไม่น้อยกว่า 1 เมตร รวมถึงไม่ปล่อยบุตรหลานจุดประทัดหรืออยู่ใกล้สถานที่จุดประทัดโดยไม่มีผู้ดูแล หากเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บแจ้งศูนย์เอราวัณ โทร. 1669

3.ขอความร่วมมือสถานประกอบการที่ปีดทำการในช่วงเทศกาลต้องตรวจสอบความปลอดภัยทางกายภาพ อาทิ อุปกรณ์ หรือระบบป้องกันอัคคีภัย สัญญาณเตือนภัย และถังดับเพลิง ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราดูแลอาคารสถานที่ ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัยขอให้ดูแลอาคารสถานที่ ตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ปิดสวิตซ์ถอดปลั๊กทุกครั้งก่อนออกจากเคหะสถาน รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์ตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ และเดินสายดิน เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วไหล ปิดวาล์วแก๊สและถังแก๊สให้เรียบร้อย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม จากสถานีดับเพลิงและกู้ภัยใกล้บ้านได้ตลอดเวลา. -417-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”