26 ม.ค. – ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายไฮบริดสแกมทักแชทสาววัยทอง หลอกลงทุนซื้อขายเงินดิจิทัล อ้างได้ผลตอบแทนมั่นคง สุดท้ายหมดเงินเกือบ 5 แสนบาท
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2566 มีผู้เสียหายเป็นอดีตข้าราชการหญิงอายุประมาณ 50 ปี ในพื้นที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้พบมิจฉาชีพใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นชายหน้าตาดี ขอเพิ่มเพื่อนเข้ามาทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้เสียหายเพื่อทักแชทมาพูดคุยแล้วขอให้แอดไลน์ จากนั้นจึงได้สนทนาผ่านไลน์ส่วนตัวกันมาโดยตลอด
เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง มิจฉาชีพสามารถสร้างความเชื่อใจแก่ผู้เสียหาย โดยอ้างว่าตนเองประกอบธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และยังเป็นนักลงทุนการซื้อขายเหรียญสกุลเงินดิจิทัล USDT ซึ่งมีผลตอบแทนมั่นคง จนทำให้ตนเองมีฐานะดี โดยมิจฉาชีพได้ส่งภาพหลักฐานที่ปลอมขึ้นเพื่อทำให้ผู้เสียหายเห็นยอดเงินที่เข้ามา จนเชื่อว่าได้กำไรจากการลงทุนจริง
ต่อมามิจฉาชีพได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อขายเหรียญสกุลเงินดิจิทัล USDT โดยส่งลิงก์ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันชื่อ www.tidex-otc.com/h5 โดยผู้เสียหายได้ลงทะเบียนตามขั้นตอนพร้อมทั้งกรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ จากนั้นได้สอนให้ผู้เสียหายลงทุนโดยการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารที่แจ้ง โดยเริ่มต้นจาก 10,000 บาท จากนั้นข้อมูลในแอปฯ ของมิจฉาชีพก็ปรากฏตัวเลขว่าผู้เสียหายได้รับกำไรเพิ่มขึ้น จึงได้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นครั้งที่ 2 จำนวน 15,000 บาท ครั้งที่ 3 จำนวน 14,000 บาท ครั้งที่ 4 จำนวน 100,000 บาท และครั้งที่ 5 อีกจำนวน 320,000 บาท โดยระหว่างลงทุน หากผู้เสียหายต้องการถอนเงิน มิจฉาชีพจะแจ้งว่าไม่สามารถถอนได้จนกว่าจะลงทุนถึงยอดขั้นต่ำที่กำหนด สุดท้ายโอนเงินไปรวมทั้งสิ้น 459,000 บาท แต่ก็ไม่เคยถอนเงินได้ ผู้เสียหายได้ปรึกษากับเพื่อนจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และได้เข้าแจ้งความดำเนินกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.4
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าวจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดได้หลายราย
กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 25 ม.ค.67 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 ราย ที่หลบหนีกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จนสามารถเข้าจับกุม นายสุรศักดิ์ อายุ 31 ปี ชาว จ.ภูเก็ต โดยควบคุมตัวได้บริเวณพื้นที่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ น.ส.ยุพา อายุ 63 ปี ชาว จ.ภูเก็ต โดยควบคุมตัวได้บริเวณพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต ส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.4 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-412-สำนักข่าวไทย