นนทบุรี 23 ม.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเผยจับมือกรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกวดล้างกระบวนการลักลอบมันเส้นคุณภาพต่ำทะลักตามแนวชายแดนจริงจัง หวั่นจะกระทบราคามันสำปะหลังในประเทศได้ ย้ำจับได้แล้วรวม 10 ราย พร้อมส่งดำเนินคดีทางกฎหมายแล้ว
นายนพดล คันธมาศ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคามันสำปะหลังเริ่มผันผวนมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากมีการนำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำราคาถูกเข้ามาตามด่านชายแดน ซึ่งที่ผ่านมากรมฯ ได้ส่งชุดตรวจลงพื้นที่ตรวจคุณภาพมันเส้นตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงผลผลิตมันสำปะหลังฤดูกาลผลิตปี 2566/67 เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ถึงกลางเดือนมกราคม 2567 ได้ลงโทษผู้ที่นำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำไปแล้วถึง 9 ราย โดยระงับไม่ให้นำเข้าเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะนำมันเส้นดังกล่าวไปปรับปรุงคุณภาพ และนำหลักฐานผลการตรวจสอบมาตรฐานตามที่กำหนดมาแสดงต่อกรมการค้าต่างประเทศ จึงจะนำเข้าต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้สนธิกำลังจัดชุดตรวจร่วมกับกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบมันเส้นที่นำเข้าจากกัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน จ.สระแก้ว และจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบการนำเข้ามันเส้นจากประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว ภายใต้กรอบของกฎหมายในกำกับดูแล โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ตรวจสอบคุณภาพของมันเส้นที่นำเข้า ว่ามีความชื้น และสิ่งเจือปน เช่น ดินทราย เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งความชื้นต้องไม่เกิน 14% ดินทรายต้องไม่เกิน 3% โดยระหว่างวันที่ 18 – 20 ม.ค. 67 ได้ตรวจสอบพบผู้นำเข้ามันเส้นที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 1 ราย ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน โดยตั้งแต่ช่วงผลผลิตปี 2566/67 เริ่มออกสู่ตลาดเดือน พ.ย. 2566 จนถึงปัจจุบัน กรมฯ ได้พักทะเบียนผู้นำเข้าไปแล้วรวม 10 ราย
“การเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบมาตรฐานมันเส้นที่นำเข้าตามแนวชายแดน โดยจัดชุดตรวจพิเศษระดับผู้บริหารกรมฯ เข้าไปลงพื้นที่กำกับดูแลการตรวจสอบคุณภาพมันเส้น เป็นอีกหนึ่งมาตรการยกระดับการป้องปรามการนำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำราคาถูกเข้ามาเป็นจำนวนมาก และเป็นการสื่อสารกับผู้นำเข้าให้เห็นถึงความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้าโดยตรง ซึ่งจะส่งผลให้ราคามันสำปะหลังของไทยมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าด่านนำเข้าใดยังมีการนำเข้ามันเส้นคุณภาพต่ำอยู่ ก็จะสั่งการให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบด่านนั้นขึ้นไปอีก“นายนพดลกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการร่วมกับกรมการค้าภายในตรวจสอบปริมาณการนำเข้าจริงว่าสอดคล้องตรงกันกับปริมาณที่แจ้งขออนุญาตขนย้ายมันเส้นหรือไม่ ซึ่งการบูรณาการการทำงานร่วมกันในลักษณะนี้จะส่งผลดีกับสถานการณ์ราคามันสำปะหลังของไทย และสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพมาตรฐานให้ประเทศผู้ซื้อ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย