สินค้าอุปโภค-บริโภคส่วนใหญ่ทรงตัว แถมผลไม้ภาคใต้ราคาดี

นนทบุรี 2 ส.ค. – อธิบดีกรมการค้าภายใน รายงานสถานการณ์ราคาสินค้าประจำสัปดาห์ เผยส่วนใหญ่ราคาทรงตัว ส่วนผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาดราคาดี ดึงภาคีเครือข่าย ทั้งภาคเอกชน เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ต่าง ๆ ร่วมวางแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคใต้ให้ได้ราคาดีไม่ตกต่ำ


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่ทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยข้าวหอมมะลิราคา 15,750 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ราคา 15,550 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุมธานี 15,350 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 11,450 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเมล็ดยาว 13,900 บาทต่อตัน ส่วนมันสำปะหลัง ราคา 2.95 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ความชื้น 14.5%) ราคาอยู่ที่ 11.38 บาทต่อกก. ปาล์มน้ำมันราคาอยู่ที่ 6 บาทต่อกก. เนื้อสัตว์มีทั้งที่ทรงตัวและบางรายการราคาปรับลดลง โดยหมูเนื้อแดงสัปดาห์นี้ เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 135.81 บาท ไก่เนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ยกก.ละ 81.94 บาท เนื้อน่องเฉลี่ยกก.ละ 85.06 บาท เนื้อสะโพกเฉลี่ย กก.ละ 85.94 บาท และเนื้ออกเฉลี่ยกก.ละ 85.81 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.25 บาท ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนสัตว์น้ำ ราคาทรงตัว โดยปลานิล กก.ละ 72 บาท ปลาทับทิม 105 บาท ปลาดุก 75.80 บาท กุ้งขาว (70 ตัว/กก.) กก.ละ 187 บาท ผักส่วนใหญ่ราคาปรับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศมีฝนตกชุกในแหล่งผลิต ทำให้ผักใบคุณภาพดีเข้าสู่ตลาดลดลง โดยผักคะน้า กก.ละ 35.90 บาท ถั่วฝักยาว กก.ละ 48 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 31.10 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 29 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 34 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 31 บาท ต้นหอม กก.ละ93.40 บาท ผักชี กก.ละ 108 บาท พริกขี้หนูจินดา 76.10 บาท ส่วนมะนาว (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 3.10 บาท


ขณะที่ผลไม้ ราคาตลาดส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลไม้ภาคตะวันออกใกล้หมดแล้ว ทุเรียนและมังคุด ออกหมดแล้ว เงาะโรงเรียน ออกแล้ว 99% เกรดส่งออก กก.ละ 41.50 บาท เพิ่ม 19% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 35 บาท เกรดในประเทศ กก.ละ 38.50 บาท เพิ่มจาก 38% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 28 บาท เงาะพันธุ์สีทองเกรดส่งออก กก.ละ 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 37% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 23 บาท และเกรดในประเทศ กก.ละ 28.50 บาท เพิ่ม 58% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 18 บาท ลองกอง ออกแล้ว 71% เบอร์1 กก.ละ 75 บาท ราคาเท่ากันกับปีก่อน เบอร์2 กก.ละ 55 บาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 52 บาท และเบอร์3 กก.ละ51 บาท เพิ่มขึ้น 2% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 50 บาท

ทั้งนี้ หากดูผลไม้ภาคใต้ ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด โดยทุเรียนภาคใต้ ออกแล้ว 40% ทุเรียนเกรดส่งออกหรือเกรด AB กก.ละ 167.50 บาท เพิ่มขึ้น 40% จากราคาปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 120 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรด C กก.ละ 112.50 บาท เพิ่ม 7% จากปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 105 บาท และเกรด D กก.ละ 100 บาท เพิ่ม 4% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 96 บาท มังคุดใต้ ออกแล้ว 17% โดยเกรดส่งออกหรือมันรวม กก.ละ 93.14 บาท เพิ่ม 152% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 73 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรดกากลาย กก.ละ 43.41 บาท เพิ่ม 45% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 50 บาท เกรดคละ กก.ละ 42.50 บาท เพิ่ม 70% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 34 บาท และเงาะโรงเรียนเกรดในประเทศ กก.ละ 42.50 บาท เพิ่ม 47% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 29 บาท เงาะพันธุ์สีทองเกรดในประเทศ กก.ละ 30 บาท เพิ่ม 25% จากปี 66 ที่เฉลี่ย 24 บาท

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดจัดกิจกรรม “Thai Fruit Festival 2024 by MOC” รณรงค์ให้บริโภคผลไม้ไทย ให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ชิม ช้อปผลไม้สดส่งตรงจากสวนเกษตรกร ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรมการค้าภายในร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาคเอกชน เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ต่าง ๆ วางแผนร่วมกันบริหารจัดการราคาผลไม้ภาคใต้ให้ได้ราคาดีและไม่ตกต่ำ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวน จากผลกระทบผลไม้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงนี้ถึงคิวผลไม้ภาคใต้อย่าง ทุเรียน มังคุด ลองกอง และลำใยจากภาคเหนือ รวมผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรูป คาดว่าจะช่วยให้เกษตรกรขายผลไม้ได้ราคาดีตลอดฤดูกาล ทั้งนี้มีกำหนดจัดงานวันที่ 2 ส.ค. 67 ณ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS, 5 – 11 ส.ค. 67 ณ ห้างโรบินสัน ศรีสมาน, 8 – 12 ส.ค. 67 ณ ห้างเซ็นทรัลเวสเกต, 12 – 18 ส.ค. 67 ณ ห้างโรบินสัน,ลาดกระบัง, 19 – 25 ส.ค. 67 ณ ห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ห้างโรบินสันราชพฤกษ์ และห้างโรบินสันสมุทรปราการ ส่วนการจำหน่ายผลไม้ผ่านขนส่งไปรษณีย์ ประชาชนสามารถไปรับกล่องผลไม้ได้ที่พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด และจัดส่งฟรีได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ค.67 ที่ผ่านมาแล้ว.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ล่าหนุ่มโมร็อกโก ฆ่าโหดหมอแซมมี่ เผ่นหนีฮ่องกง

ตำรวจประสานตำรวจสากล เร่งล่าตัวแฟนหนุ่มชาวโมร็อกโก ผู้ต้องสงสัยฆ่าโหดหมอแซมมี่ แพทย์ความงามสาวสอง เจ้าของคลินิกเวชกรรมชื่อดังเชียงใหม่ พบเผ่นหนีไปฮ่องกงแล้ว

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชวนลงทุนซิม-ตู้เติมเงิน

ผู้เสียหายร้องตำรวจ ปคบ.ตรวจสอบบริษัท K4 ชักชวนลงทุนซิมและตู้เติมเงิน อ้างสิทธิ กสทช. พบมีผู้เสียหาย 5,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,000 ล้านบาท

รถตู้กลับจากแข่งเรือเสียหลักชนต้นไม้ ดับ 4 เจ็บ 9

สลด! รถตู้กลับจากแข่งเรือยาวที่ จ.ปทุมธานี เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ บนถนนสายลำปาง-งาว จ.ลำปาง เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย

ตั้ง กก.สอบ 7 ตำรวจ บก.จร.ทำร้ายลูกชายอดีต ตร. พ่อยันเอาเรื่องถึงที่สุด

กองบังคับการตำรวจจราจร ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง 7 ตำรวจ บก.จร. รุมทำร้ายลูกชายอดีตตำรวจ พ่อและน้องสาวยืนยันไม่ยอมความ เอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย

ครอบครัวผู้เสียหายที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เผยอาการยังสาหัส ยันไม่ยอมความ แม้มีกระเช้าปริศนามาให้แล้ว 3 กระเช้า พร้อมท้าตำรวจทั้ง 7 นาย เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผยพฤติกรรมตัวเอง ด้าน รอง ผบช.น. ยันตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำไป

ครอบครัวของผู้บาดเจ็บที่โดนตำรวจ 7 นาย รุมทำร้าย เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนของ สน.บางเขน ก่อนเดินไปชี้จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่าน และเป็นจุดเดียวกับที่ตำรวจพาผู้บาดเจ็บเข้ามาจอดรถไว้หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เพื่อตรวจสอบว่ารถของผู้บาดเจ็บเป็นรถคันเดียวกับที่ได้ขับแหกด่านหรือไม่ โดยก่อนการชี้จุด พ่อและน้องสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางมาพร้อมกับร้อยเวร สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เจ้าของพื้นที่ เพื่อชี้จุดและให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม ระหว่างรอตัวผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวจนสามารถเข้าให้การกับตำรวจได้

นางสาวธนัชตา น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า พี่ชายยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จุดที่น่าเป็นห่วงคือบริเวณศีรษะทั้งหมด โดยเฉพาะดวงตาขวามีเลือดออก การมองเห็นยังไม่ปกติ ส่วนตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีส่วนใดต้องผ่าตัด

เหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกรับไม่ได้ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเข้าข้อกฎหมายข้อไหนพร้อมจะต่อสู้ มองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะพี่ชายของตนไปคนเดียวและไม่มีอาวุธ แต่คู่กรณีเป็นถึงตำรวจ และมีด้วยกันถึง 7 นาย ทันทีที่รู้เรื่องตนเองรีบเดินทางมาที่ด่านทันที พยายามสอบถามว่าตำรวจนายไหนเป็นคนทำพี่ชายของตนเอง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งพี่ชายพยายามบอกแล้วว่าไม่ใช่คนขับรถหนีด่าน

นางสาวธนัชตา ยังฝากถึงตำรวจตั้งด่านทุกนายว่าทุกคนมีกล้องติดหน้าอก ตนเองพยายามขอดูแต่มีการอ้างว่ากล้องเสียบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง จึงอยากฝากไปถึงตำรวจตั้งด่านในวันนั้นทุกนายให้เอากล้องติดหน้าอกออกมาเปิดเผย เพื่อเป็นการยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเหตุการณ์วันนั้นตนเองก็มีหลักฐาน รวมถึงพยานคือคนที่เข้าด่านตรวจก็เห็นทุกคนว่าเหตุการณ์ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่ที่ตำรวจจะกล้าหรือไม่กล้า

น้องสาวผู้บาดเจ็บ บอกอีกว่าเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) มีกระเช้าผลไม้-ดอกไม้ปริศนา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นของใคร หรือของตำรวจสังกัดใดบ้างนำมาเยี่ยม ขอย้ำว่าไม่ขอรับกระเช้า เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่านำเอามาให้ด้วยเหตุผลอะไรแอบแฝง

ด้าน พันตำรวจโท ธนชัย เกิดศรี หรือสารวัตรเจี๊ยบ อดีตพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรมาก่อนไปอยู่ บก.ปทส. ตามปกติแล้วตำรวจมีขั้นตอนในการใช้ยุทธวิธีเพื่อจับผู้ต้องหาด้วยเครื่องพัฒนาการอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุแบบนี้ กรณีหากผู้ต้องหามีการต่อสู้หรือขัดขวาง ตำรวจไม่มีสิทธิที่จะไปรุมทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งจะพยายามเลี่ยงการใช้กำลังให้น้อยที่สุด การจับกุมตำรวจต้องมีการแสดงตัวเป็นตำรวจ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่าทำอะไรผิด จากนั้นจะเชิญตัวมาที่ด่านหรือโรงพักในพื้นที่ เพื่อดำเนินการสอบปากคำและพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ เพราะมีโซเชียลเป็นหูเป็นตา ยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แม้ว่าจะให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงลงมาพูดคุยก็ตาม เมื่อวานนี้ทางพยาบาลแจ้งว่ามีตำรวจนำกระเช้ามามอบให้แล้ว 3 กระเช้า แต่ตนไม่รับ เพราะไม่รู้ว่ามาด้วยวัตถุประสงค์อะไร และไม่รู้ว่าเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากพยาบาลแจ้งแค่ว่าเป็นตำรวจเท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอก อนันต์ วรสาตร์ ผู้กำกับการ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำน้องสาวและแม่ของผู้บาดเจ็บในฐานะพยาน ส่วนผู้บาดเจ็บตอนนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำ เนื่องจากยังอยู่ในอาการสาหัส

ส่วนกรณีผู้ก่อเหตุทั้ง 7 นายที่เป็นตำรวจ ตอนนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ เนื่องจากพนักงานสอบสวนอยากทราบพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุจากผู้เสียหายก่อน ยืนยันว่าจะไม่มีการช่วยเหลือแม้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจก็ตาม

ด้าน พลตำรวจตรี ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งดูแลรับผิดชอบงานจราจร ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เบื้องต้นผู้บังคับการตำรวจจราจรกลาง รายงานมาเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นตำรวจทั้ง 7 นาย บอกว่ามีการเข้าใจผิด คิดว่าจะขับรถแหกด่านจึงมีการตามไป ก่อนที่ผู้เสียหายจะมีการขัดขืน ทำให้ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องใช้กำลังในการระงับเหตุ ยอมรับว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุจริงๆ ตอนนี้ทราบว่ากองบังคับการตำรวจจราจรมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงขึ้นแล้ว ส่วนทางคดีอาญาอยู่ที่ สน.บางเขน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทั้ง 7 นาย ต้องชี้แจงและยอมรับกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป รวมทั้งอาจจะต้องทบทวนเรื่องยุทธวิธีที่่ใช้ในการระงับเหตุ แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่เคยมีวิธีระงับเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด.-414-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สถาบันประสาทฯ ชี้นวดต้นคอเสี่ยงอันตราย เหตุเป็นศูนย์รวมอวัยวะสำคัญ

สถาบันประสาทวิทยา ชี้นวดต้นคอเสี่ยงอันตราย เพราะเป็นศูนย์รวมอวัยวะสำคัญ มีทั้งหลอดเลือด และกระดูก ไม่ได้มีแต่กล้ามเนื้อ นวดผิดชีวิตเปลี่ยน ตั้งแต่อัมพฤกษ์ อัมพาต จนเสียชีวิต

“แม่น้องผิง” ติดใจการตายของลูกสาว วอนร้านนวดรับผิดชอบ

แม่นักร้องสาว “ผิง ชญาดา” ติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว อยากให้เจ้าของร้านนวดแสดงความรับผิดชอบ เผยมีลูกสาวคนเดียว เป็นเสาหลักของครอบครัว ด้านเพจ “หมอไทยสตอรี่” เตือนนวดบริเวณคอผิดวิธี เสี่ยงเส้นเลือดเสียหาย-กระดูกสันหลังเคลื่อน-เส้นประสาทถูกทำลาย แนะหากมี 4 อาการหลังนวด ควรพบแพทย์ด่วน

ตร.ทองหล่อ บุกทลายปาร์ตี้ไฮโซกลุ่มลับ พบยาเสพติด

ตำรวจทองหล่อบุกทลายปาร์ตี้ไฮโซกลุ่มลับในโรงแรมย่านคลองเตยเหนือ พบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ตรวจค้นพบยาเค ยาอีจำนวนหนึ่ง จึงคุมตัวนักท่องเที่ยวทั้งหมดไปตรวจหาสารเสพติด

อุทาหรณ์นวดบิดคอ! นักร้องสาวเสียชีวิตแล้ว

อุทาหรณ์นวดบิดคอ! นักร้องสาวเข้าร้านนวดแบบบิดคอ ก่อนมีอาการตัวชา-ร่างกายอ่อนแรง กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว