กรุงเทพฯ 17 ก.ย.- กรมการค้าต่างประเทศ ก.พาณิชย์ เตรียมยกระดับมาตรการสกัดกั้นการนำเข้าขยะ หลังพบพบการสำแดงสินค้าว่าเป็นเศษกระดาษที่คัดแยกประเภทแล้วนำเข้ามาเพื่อรีไซเคิล แต่กลับพบว่าสินค้ามลพิษมีขยะของเสียอันตรายเจือปน
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเฝ้าติดตามและได้เตรียมยกระดับความเข้มข้นของมาตรการในการกำกับดูแลการนำเข้าสินค้าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การห้ามนำเข้าเศษกระดาษหรือการกำหนดมาตรการใบอนุญาตนำเข้าเศษกระดาษที่ต้องกลั่นกรองอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการนำเข้าเศษกระดาษที่เจือปนของเสียหรือวัสดุอื่นๆ ซึ่งมีวัสดุที่เข้าข่ายเป็นขยะอันตราย (Hazardous Waste) และของเสียทางการแพทย์ (Medical waste)
ตั้งแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา ได้รับการรายงานมาเป็นระยะว่า พบผู้ประกอบการสำแดงการนำเข้าเศษกระดาษเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในโรงงานสำหรับผลิตเป็นกระดาษและบรรจุภัณฑ์ แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของสินค้าแล้วพบว่า สินค้านำเข้ามีของเสียและวัสดุอื่นเจือปนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจัดว่าเป็นขยะอันตราย เช่น ของใช้แล้วจำพวก ขวดพลาสติก โฟม ถุงพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย ถุงน้ำยาทางการแพทย์และสายยาง ฯลฯ แสดงให้เห็นว่าเศษกระดาษที่สั่งซื้อเข้ามา ไม่ได้รับการคัดแยกประเภทและไม่ได้เกณฑ์มาตรฐานสิ่งเจือปนที่ยอมรับได้จากประเทศต้นทาง โดยสินค้าที่มีของเสียและวัสดุอื่นเจือปนเข้าข่ายเป็นขยะเทศบาลซึ่งเป็นสินค้าห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะเทศบาลเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2562 ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงขอให้ผู้ประกอบการนำเข้าเพิ่มความระมัดระวังและให้ความสำคัญกับการคัดเลือกตัวแทนผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อจะได้ไม่นำขยะจากต่างประเทศเข้ามาในไทยซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน
หากผู้ประกอบการมีข้อสอบถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ DFT Call Center โทร 1385 หรือกองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป โทร. 0 2547 5121. -511- สำนักข่าวไทย