กทม. 15 ม.ค.-DSI จับกุมหญิงรับจ้างอุ้มบุญผิดกฎหมายคาสนามบิน หลังกลับจากต่างประเทศ
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 02.00 น. ชุดปฏิบัติการสืบสวน ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการสืบสวนปราบปราม บก.ตม.2 ร่วมกันจับกุม นางสาวสายฝน ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3812/2566 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายเเรงอันเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ฯลฯ โดยจับกุมได้ที่ บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ขณะผู้ต้องหากำลังเดินทางกลับจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังประเทศไทยกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 236/2565 กรณีขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยเพื่อรับจ้างตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ) ให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างประเทศที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในจังหวัดหนองคาย กรณีเด็กชายแทนไทย (นามสมมุติ) ซึ่งมีนางสาวสายฝน เป็นผู้ต้องหา และหลบหนีไปต่างประเทศ จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับและประกาศสืบจับไว้ ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนเสร็จสิ้น ทางคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้องนางสาวสายฝน และได้เสนอความเห็นพร้อมสำนวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ต่อมา ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับประสานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่านางสาวสายฝน กำลังเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 จึงร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวนำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมาวันนี้ จึงได้ควบคุมนางสาวสายฝน ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ภัยจากอาชญากรรมพิเศษมีผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม ดังนั้น ในการปฏิบัติงานด้านคดีพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มีการบูรณาการการปฏิบัติงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในการร่วมกันกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชน” พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว.-119.-สำนักข่าวไทย