กทม. 31 ธ.ค.-“ธนกร” เปิด 4 กระทรวงหลัก รทสช. ผลงานเพียบ รมต.ลุยหนักทุกคน สส. พร้อมทำหน้าที่ในสภาหลังเปิดปีใหม่พิจารณางบฯ 67 ทันที ปัดแย่งกันเคลมผลงาน มองเป็นเรื่องดี ทำการเมืองสร้างสรรค์ แข่งกันทำงานให้ประชาชนมากที่สุด
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการทำงาน 4 กระทรวงหลักภายใต้พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า ตั้งแต่พรรครทสช.เข้ามาทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีทุกคน นำโดยนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรค ได้เป็นตัวอย่างในการทำงานอย่างเต็มที่ และกำชับรัฐมนตรีของพรรครวมถึงสส.ให้ใช้โอกาสนี้ทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ทำให้เห็นผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ เช่น กระทรวงพลังงาน ได้เสนอออกมาตรการลดค่าไฟฟ้าให้ภาคครัวเรือนและกลุ่มเปราะ ที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะอยู่ที่ 3.99บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้เดินคิดอัตรา 4.20 บาทต่อหน่วย คงราคาก๊าซหุงต้มถัง 15 ก.ก.ที่ 423 บาท ตรึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ให้คงอยู่ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาทขยายต่อเนื่อง ทั้งค่าไฟกับน้ำมันดีเซลต่อไปอีก 4 เดือน ม.ค.- เม.ย.67 และยังแก้โครงสร้างพลังงานและแก้กฎหมาย เนื่องจากพบปัญหาปั้มน้ำมันอาศัยช่องโหว่กฎหมายเติมน้ำมันไม่เต็มลิตร ทำให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครทสช. ต้องเร่งแก้ปัญหารื้อทั้งระบบ
ขณะที่กระทรวงการคลัง ดูเรื่องการลงทุนช่วยเหลือภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ SMEs ต่าง ๆ ส่วนภาคประชาชนได้ให้ความรู้เรื่องการออม การบริหารจัดการรายได้ จัดทำบัญชีครัวเรือนและลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ฯลฯ กระทรวงอุตสาหกรรม ออก 8 มาตรการปราบสินค้าออนไลน์ ไร้มาตรฐาน ให้หมดภายใน 6 เดือน เร่งยกระดับ ตั้ง “กรมอุตสาหกรรมฮาลาล” เพื่อรองรับการขยายโอกาสอุตสาหกรรมใหม่ของไทย การสนับสนุนพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาตรการพักหนี้เกษตรกร ส่งเสริมแปรรูปสินค้าเกษตรครบวงจร พัฒนาสู่เกษตรมูลค่าสูง ผลักดันโครงการสร้างรายได้ให้เกษตรกรต่อเนื่อง สนับสนุนการแก้กฎหมายให้ที่ดิน สปก.เป็น โฉนดเพื่อทำการเกษตร ฯลฯ นอกจากนี้หลังปีใหม่เปิดสภา 36 สส.รทสช.ทุกคนทำการบ้านมาพร้อมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ทันที
เมื่อถามว่า การที่พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคต่างเปิดผลงาน เหมือนเป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมือง แข่งกันเองหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการชิงดีชิงเด่นกันทางการเมืองแต่อย่างใด แต่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี สำหรับการแข่งกันทำงาน แข่งกันแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมากกว่า ซึ่งท้ายที่สุดแล้วประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุดถือว่าทุกพรรคการเมืองได้ทำตามสัญญาและทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้
”ผมมองเป็นเรื่องดีมากกว่าเป็นการชิงดีชิงเด่นทางการเมือง ที่ผ่านมาการเมืองอาจจะมีการใส่ร้ายป้ายสีโจมตีดิสเครดิตกันอยู่ แต่การเมืองยุคใหม่ต้องแข่งกันทำงาน แข่งกันแก้ปัญหา และแข่งกันช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะถือว่าทุกพรรค มีจุดหมายเดียวกันคือประชาชนและประเทศได้ประโยชน์ การทำงานการเมืองแบบใหม่ ต้องทำงานอย่างสร้างสรรค์ ไม่พูดเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่เพื่อน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน ก็ควรทำงานอย่างสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมประเทศและประชาชนมากที่สุด“ นายธนกร ย้ำ.-312.-สำนักข่าวไทย