“อนุทิน” ยันเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง

เขากระโดง

ก.มหาดไทย 14 พ.ย.-“อนุทิน” ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเหมือนกัน ทำประโยชน์ให้ประชาชน-ประเทศ หลัง “ทักษิณ” ชมพรรคร่วมสามัคคีกันดี ยันเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง ขอคนไม่อยู่ในวงอย่าคาดคะเน ชี้ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องผลประโยชน์ใคร โอดกว่าจะนั่งคุม มท. แทบตาย ไม่ให้ใครมาด่าสาดเสียเทเสีย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ไปปราศรัยที่จังหวัดอุดรธานี โดยกล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายอนุทินเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ว่า คุยกันอยู่ทุกวัน ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี การป้องกัน ปราบปรามทำลายล้างยาเสพติด เป็นนโยบายที่ทางพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคภูมิใจไทย เห็นพ้องต้องกันแบบไม่มีข้อแตกต่าง มุ่งมั่นตั้งใจ ปราบปรามยาเสพติดให้ได้มากที่สุด ซึ่งการจะบอกให้ปราบปรามโดยสิ้นซากคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ได้ผลิตในประเทศไทย แต่ยาเสพติดเหล่านี้ถูกผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งที่เราทำได้คือการสร้างอุปสรรคทุกอย่าง ในการลำเลียงขนส่งยาเสพติด เข้ามาในประเทศไทย จะเห็นได้จากข่าวว่ามีการจับกุม ทำลายล้าง ดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยทุกรูปแบบ


ส่วนการกวาดล้างจะเข้มข้นเหมือนยุคที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ต้องเอาให้เข้ม นายกฯแพทองธาร มีความเกลียดชัง รังเกียจ การค้ายาเสพติด ไม่น้อยกว่าอดีตนายกทักษิณ รวมถึงนายเศรษฐาด้วย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ทำอยู่ตลอดทุกจังหวัด

เมื่อถามว่าได้ประเมินหรือไม่ หลังนายทักษิณเริ่มลงพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าคนไทยทุกคน ถ้าคิดจะทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ทำแล้วประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนช่วยกันทำประเทศไทยจะดีขึ้น


ส่วนจะสะท้อนภาพรัฐบาลแน่นปึก เพราะนายทักษิณ ระบุว่าตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็สามัคคีกันดีอยู่ นายอนุทิน ระบุว่า เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ภาพรวมเป้าหมายต้องเหมือนกัน ซึ่งการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเป้าหมายหลักคือประชาชนและประเทศชาติ ตรงนี้เหมือนกันแน่นอน ส่วนการดำเนินการ ก็เป็นไปตามภารกิจของแต่ละกระทรวง ซึ่งร่วมกันขับเคลื่อนอย่างดี อย่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเดินทางไปต่างประเทศ และ ในสัปดาห์หน้าจะมีเรื่องสำคัญ เข้าครม.โทรศัพท์ มาบอกตน รบกวนฝากให้พิจารณา และผ่านความเห็นชอบ ในฐานะที่เป็นรักษาการแทนนายสุริยะ พอตนอ่านดูแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ ตนก็เซ็นให้ ไม่เคยคิดอะไรที่เป็นเรื่องการเมือง อันนี้ทำไปแล้วพรรคตนจะเสียคะแนน พรรคท่านจะได้คะแนน ตนไม่เคยคิด ย้ำว่าเป็นรัฐบาลก็คือรัฐบาล หากทำดีอานิสงส์ก็ปกแผ่ไปหมด

เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณ ออกมาระบุเช่นนี้เป็นการสยบข่าว ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย กรณีเขากระโดงหรือไม่นายอนุทิน ยืนยัน ไม่เคยมีความขัดแย้ง มันไม่เคยมีความขัดแย้ง ตนถึงได้พูดว่าเปลี่ยนชื่อเป็นบ่าง กันหรือยัง เพราะเรื่องความขัดแย้ง เป็นการคาดคะเนของคนที่ไม่อยู่ในวง มันมีตรงไหนที่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้ง หากบอกว่า มีประเด็นความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ในช่วงสองสัปดาห์ อาทิตย์ที่แล้วตนดังได้มีโอกาสตามนายกรัฐมนตรี ไปประชุมที่คุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ท่านให้เกียรติตนตลอดเวลา แล้วจะมีความขัดแย้งตรงไหน

“ตนไม่เข้าใจ ที่มีคนกล่าวว่า เพื่อไทยเอาคืนภูมิใจไทยเรื่องเขากระโดง ตนขอถามว่า พรรคเพื่อไทยจะเอาคืนภูมิใจไทยเรื่องอะไร เพราะพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ซึ่งเรื่องของกระโดงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายปฏิบัติตามคำสั่งศาล ปฏิบัติตามกฏหมาย และระเบียบของกรมที่ดิน และไม่ต้องกังวลเรื่องตัวของตนเองเลย แม้แต่ตารางมิลเดียว อย่าว่าแต่ตารางวาเลย ที่เขากระโดงไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีเหตุอะไร ที่ตนต้องไปปกป้องผลประโยชน์ของใคร อยู่กระทรวงมหาดไทย กว่าจะมาได้แทบตาย เสร็จแล้วจะไปปกป้องผลประโยชน์ให้คนมาด่า สาดเสียเทเสีย ต่อให้พ้นตำแหน่งไปก็ยังโดนตราบาปไปตลอดชีวิต จดเอาไว้เลยว่า ไม่มีกับคนชื่ออนุทิน ตนไปไหนต้องทำให้คนจำ ถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ที่ได้ทำเอาไว้“ นายอนุทินระบุ


ส่วนกรณีที่เลขาธิการกฤษฎีกา แนะนำให้กรมที่ดิน และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พูดคุยกันเพื่อเจรจาหาข้อยุติในเรื่องนี้ นายอนุทิน ยืนยันว่า มีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา และตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ส่วนที่บอกว่าคณะกรรมการตามมาตรา 61 ไม่มี การรถไฟฯ เพราะต่างคนต่างเป็นคู่กรณี แต่เขามีกรรมการแยกต่างหากแล้วค่อยไปตั้งกรรมการร่วมกัน ฉะนั้น ขออย่านำเรื่องนี้มาโยงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะเรื่องพวกนี้จบในกรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายและสั่งการกรมที่ดินให้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบทุกอย่าง ไม่มีการเอื้อหรืออำนวยความสะดวกให้กับใคร ส่วนจะจบอย่างไรก็ให้เป็นไปตามนั้นไม่ต้องมารายงานรัฐมนตรี เพราะหากไม่เป็นไปตามกฎหมายก็ต้องมีคนร้องคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหากการรถไฟ ยังไม่พอใจก็ไปฟ้องศาลต่อซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว

นายอนุทิน ยังมองว่า หลายเรื่องที่มีการนำเสนอข่าวออกไปผิดหมดเลย พร้อมยกตัวอย่างการลาออกของอดีตอธิบดีกรมที่ดิน ที่มีการอ้างว่าถูกแรงกดดัน จึงลาออกเพราะไม่อยากเข้าคุก ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง เนื่องจากต้องการไปดูแลภรรยาที่ป่วย และเมื่อเขามีความจำเป็นก็ต้องเคารพการตัดสินใจ เพราะมองว่าการเสนอข่าวต้องมีความแม่นยำข้อมูลให้มากกว่านี้ และแหล่งข่าวไม่ต้องไปหาที่ไหน เพราะตนรายวัน(ให้สัมภาษณ์)อยู่แล้ว เจอผู้สื่อข่าวก็วิ่งเข้าหาทุกที​ ไม่เคยให้ต้องมาตาม เราต้องมาคุยกันแบบนี้ อย่าไปฟังตรงโน้นทีตรงนี้ทีและเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งคุณไม่ได้เดือดร้อนผมไม่ได้เดือดร้อน แต่คนเดือดร้อนคือประชาชน

ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี​ จะเป็นการไปหาข้อมูลเพื่อเตรียมล้มรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลหากดูสถิติจะล้มล้มกันเองในรัฐบาล ไม่เคยล้มข้างนอก เพราะฉะนั้นคนในรัฐบาลต้องทำลายสถิติ ต้องรักต้องสามัคคีทำงานเพื่อ ชาติและประชาชน มันก็จะไม่มีอะไรล้มได้

เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลจะอยู่ครบวาระใช่หรือไม่ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ก็เป็นเป้าหมาย เราอยากจะทำงานให้สืบทอดนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จ อยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น แต่เป้าหมายคือต้องอยู่ทำงานให้เป็นรูปธรรม และสำเร็จ พร้อมขอว่าอย่ายุ​ เพราะมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะมันเป็นเรื่องของการทำงานอย่างไรก็ไม่มีปัญหา หลักคือต้องทำไปตามกฎหมาย และเพื่อประชาชน กับประเทศชาติ ไม่ผิดระเบียบจารีต วัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งทุกคนก็ยึดถืออยู่แล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย