กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – กรมโรงงานฯ เตรียมรับมือกากขยะพลังงาน หนุนตั้งโรงงานกำจัดแผงโซลาเซลล์ พร้อมเผยไทยจะมีกากโซลาร์เซลล์กว่า 500,000 ตัน ในอีก 25 ปี
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมใช้พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่ ปี 2545 ทำให้ปัจจุบันการใช้พลังงานทดแทนจากแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะ โซลาร์ฟาร์มหรือโซลาร์รูฟท็อปและมีแนวโน้มการใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแล้วยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน สำหรับแผงโซลาร์เซลล์นั้นมีอายุการใช้งานประมาณ 25 ปี ภายหลังสิ้นอายุการใช้งานหรือหมดความคุ้มค่าในการผลิตไฟฟ้าแล้วจะเกิดเป็นซากของเสียขึ้น ซึ่งจากการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จนถึงปัจจุบัน ประเมินว่าจะทยอยเกิดเป็นซากแผงโซลาร์เซลล์ในอีก 25 ปี รวมกว่า 500,000 ตัน
นายมงคล กล่าวต่อว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมจัดทำแผนแม่บทเพื่อเตรียมรับมือซากแผงโซลาร์เซลล์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพื่อเข้าระบบการจัดการอย่างถูกต้อง เน้นการบูรณาการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกัน เพื่อจัดการซากเซลล์แสงอาทิตย์ครบวงจร ส่งเสริมภาครัฐให้ออกมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการ รวมถึงเป้าหมายการรีไซเคิลแผงโซลาร์เซลล์อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ในแผนแม่บทดังกล่าวยังเสนอให้เอกชนตั้งโรงงานต้นแบบการรีไซเคิลซากแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรวบรวม คัดแยก และนำของเสียกลับมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ จากการประเมินแนวโน้มการติดตั้งตามนโยบายรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นใน 10 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีซากแผงโซลาเซลล์ที่สิ้นอายุการใช้งานกว่า 500,000 ตัน ถือเป็นปริมาณมากและจะต้องมีโรงงานจัดการรองรับซากปริมาณเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอันใกล้จะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วม (MOU) ระหว่างโรงงานที่มีความพร้อมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเป็นโรงงานนำร่องจัดการแผงโซลาร์เซลล์อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุดปัจจุบันในต่างประเทศมีการรีไซเคิลหลายรูปแบบ อาทิ การบด แยกด้วยแม่เหล็กหรือการแยกด้วยความหนาแน่น การกัดด้วยกรดและสารละลายต่าง ๆ การเผาการถลุงโดยใช้ความร้อน การหลอม รวมถึงวิธีอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพ .-สำนักข่าวไทย