ทำเนียบฯ 18 ธ.ค.-“อนุทิน” รมว.มหาดไทย ถกแก้หนี้นอกระบบนัดแรก ตั้งอนุกรรมการ มีปลัดมหาดไทยนั่งหัวโต๊ะ พร้อมอนุมัติมาตรการแก้ 3 ด้าน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการหนี้นอกระบบ ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องตั้งคณะอนุกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และผู้แทนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และมีผู้อำนวยการ สำนักการสอบสวนและนิติการ ทำหน้าที่อนุกรรมการและเลขานุการของคณะอนุกรรมการ
“ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จะแบ่งออกเป็น ระบบ 3 ด้าน ประกอบด้วย 1. ด้านการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ โดยมีกรมการปครองเป็นเจ้าภาพหลัก และมีสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมสนับสนุน โดยนับแต่เริ่มปิดลงทะเบียนจนถึง 18 ธ.ค. 66 (เวลา 11.30 น.) ปรากฏว่ามีลูกหนี้มาลงทะเบียนแล้ว 99,484ราย คิดเป็นมูลหนี้ 5,926 ล้านบาท โดยในระหว่างการลงทะเบียนดังกล่าวก็มีการเชิญเจ้าหนี้ลูกหนี้มาทำการไกล่เกลี่ยโดยใช้กลไกของฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมกับตำรวจและพนักงานอัยการ โดยทางเจ้าหนี้-ลูกหนี้สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ก็จะมีการทำบันทึกประนีประนอมไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 20 ราย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า 2.ด้านการบังคับใช้กฎหมาย มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ โดยบูรณาการร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครอง เช่น ผู้ว่าราขการจังหวัด นายอำเภอ และมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ช่วยเหลือ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้กำลังประทุษร้ายลูกหนี้ไปแล้วบางส่วน รวมทั้งเรียกเจ้าหนี้มาทำความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอีกด้วย 3.ด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน จะมีกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับสถาบันทางการเงินของรัฐในการปล่อยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขน้อย ให้วงเงินไม่เกิน 50,000 /ราย และอาจมีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้เข้ามาช่วยเหลือลูกหนี้ตามสาเหตุแห่งการเป็นหนี้ ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงกระทรวงมหาดไทยให้การสนับสนุนด้าน การหาอาชีพเสริม สนับสนุนปัจจัยการผลิต
“อัตราดอกเบี้ยที่ลูกหนี้เสีย จะอยู่ในระดับที่น้อยกว่าเคยเสียอยู่ก่อนเช่น ร้อยล่ะ 2 /วัน ร้อยล่ะ 10/เดือน หรือ 20/เดือน โดยกำหนดให้ 0.75/เดือน หรือไม่เกินร้อยล่ะ 1.5/เดือน หากลูกหนี้มีความน่าเชื่อถือ มีรายได้แน่นอน อัตราดอกเบี้ยก็จะอยู่ในเกณฑ์นี้ หลังจากนี้คงไม่ต้องมาเถียงกันแล้วว่ายุติธรรมหรือไม่ เพราะตัวเลขสูงกว่านี้ ลูกหนี้ก็เคยแบกรับมาแล้ว ส่วนนี้คือการช่วยเหลือที่รัฐบาล ต้องการแก้ไขปัญหาให้มากที่สุด หลังจากนี้จะประชุมคณะกรรมการทุกเดือน เพื่อรับฟังการดำเนินการของฝ่ายปฏิบัติงาน เช่น กรมการปกครอง ตำรวจ การคลัง ที่จะหาเงินมาช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว.-317.-สำนักข่าวไทย