fbpx

เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและครอบครัว

27 พ.ย. – กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะความรุนแรงต่อเด็กและสตรีเป็นปัญหาที่สำคัญควรได้รับการดูแลแก้ไขและรณรงค์ให้เกิดความตระหนักมากขึ้น


นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เดือนพฤศจิกายนของทุกปีถือเป็น”วันขจัดความรุนแรงต่อเด็กและสตรีสากล” สำหรับประเทศไทย คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือน “รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” โดยมีการรณรงค์ตลอดทั้งเดือนเพื่อให้สังคมตระหนักและป้องกันปัญหาความรุนแรงที่จะเกิดต่อเด็ก และสตรีในครอบครัว รวมไปถึงความรุนแรงในสังคมทุกรูปแบบ ซึ่งในปัจจุบันยังมีเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่เป็นเหยื่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางกายและจิตได้อย่างมาก

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ในฐานะสถานพยาบาล มีหน้าที่ให้การรักษาพยาบาลและให้ความคุ้มครองเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง ได้จัดตั้งศูนย์พึ่งได้ (One Stop Crisis Center : OSCC) ปฏิบัติงานแบบสหวิชาชีพทั้งภายในและภายนอกสถาบันฯ ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา พนักงานและเจ้าหน้าที่ตามกฏหมาย ซึ่งมีนักสังคมสงเคราะห์เป็นผู้จัดการและเป้าหมายสำคัญคือการดูแลครอบคลุมทุกมิติสุขภาพ รวมทั้งการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กด้วย จากสถิติผู้มารับบริการที่ศูนย์พึ่งของสถาบันฯได้ ในช่วงปี 2564 – 2566 มีเด็กถูกกระทำความรุนแรงทั้งสิ้น 134 ราย เป็นเด็กผู้ชาย 74 ราย และเด็กผู้หญิง 64 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีได้มีแนวทางการช่วยเหลือเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็กและครอบครัว ดังนี้ 1.ตรวจร่างกายและให้การรักษาหากเกิดความบาดเจ็บทางร่างกาย 2.เข้าสู่กระบวนการของศูนย์พึ่งได้โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล ร่วมกับสหวิชาชีพนอกโรงพยาบาลและครอบครัวโดยมีนักสังคมสงเคราะห์เป็น Case manager ประเมินความปลอดภัยของเด็กเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำความรุนแรงซ้ำ 3.ในรายที่แพทย์ประเมินเบื้องต้นว่าเด็กและครอบครัวได้รับผลกระทบด้านจิตใจให้ส่งประเมินสภาพจิตใจและผลกระทบต่อเหตุการณ์โดยจิตแพทย์ หากพบความผิดปกติจะทำการบำบัดรักษาฟื้นฟูเด็ก 4.นักสังคมสงเคราะห์ ประเมินทางสังคม สภาพแวดล้อม ทำงานร่วมกับเด็ก ผู้ปกครอง ครู โรงเรียน ชุมชน โดยอาศัยความร่วมมือจากแพทย์ พยาบาล นักวิชาชีพทั้งภายในและภายนอกสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เช่น การแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการคุ้มครองเด็กเพื่อร่วมกันวางแผนให้การช่วยเหลือ ป้องกันปัญหาความรุนแรงดำเนินการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กต่อไป โดยในปีนี้จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรง “ตัวหนูปลอดภัย บ้านอบอุ่นใจ ไร้ความรุนแรง (Peaceful Homes, Happy Hearts) มีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะกระตุ้นเตือนให้เด็กๆ คุณพ่อ คุณแม่ และทุกคนในครอบครัวให้มีความรู้และเสริมทักษะที่จะปกป้องคุ้มครองเด็ก หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อกลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โทร. 1415 ต่อ 3327 หรือช่องทางการช่วยเหลือ สายด่วน OSCC : 1300. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย