กรุงเทพฯ 22 พ.ย. – ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุกลุ่มคนร้ายก่อเหตุยิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ” เสียชีวิต เป็นกลุ่มคนไร้ตัวตน แต่พยายามสร้างโลกเสมือนจริง เพื่อเกิดการยอมรับ เตรียมตรวจดีเอ็นเอ เทียบกับอาวุธปืน พิสูจน์ตัวคนลั่นไก
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวภายหลังสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุยิง น้องหยอด นักศึกษาอุเทนถวายและครูเจี๊ยบ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ย่านคลองเตย โดยระบุว่าจากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมา ทำให้รู้กลุ่มบุคคลร่วมลงมือในเหตุการณ์ดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย โดย 1 ในนั้นถูกจับกุมตัวได้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจดีเอ็นเอเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับวัตถุพยานโดยเฉพาะอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้ ว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ หากใช่จะสามารถระบุได้ทันทีว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ลงมือก่อเหตุลั่นไก เนื่องจากเป็นใน 2 คน นั่งอยู่รถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุ
ส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่ควบคุมได้ 7 คน ถ้ามีส่วนพัวพันและมีความเชื่อมโยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงนักศึกษาอุเทนถวายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถูกจับกุมได้ในวันนี้ด้วยมีส่วนเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว
สำหรับผู้ต้องหากลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่สร้างตัวเองขึ้นมาในโลกเสมือนจริง ไม่มีสถานะการเป็นนักศึกษาเทคโนโลยีปทุมวันแต่อย่างใด แต่พยายามสร้างตัวตนให้เกิดการยอมรับ โดยเชิญชวนกลุ่มที่พ้นสถานะการเป็นนักศึกษาและกลุ่มนักศึกษาปัจจุบันเข้าร่วมกลุ่ม และสร้างค่านิยมดังกล่าวขึ้นมาและมีการติดภาพเหยื่อ และคนตายในสถาบันตนเองที่ถูกกระทำจากเหตุการณ์ในลักษณะนี้โดยการนำรูปมาติดไว้ ในสถานที่พักพิงเพื่อสร้างบทบาท และแรงปลุกเร้าให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะขึ้น อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังมีผู้ที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องตรวจสอบและขยายผลต่อไปอีกหลายคน อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้เร่งดำเนินการจัดการบุคคลเหล่านี้ที่สร้างตัวตนในโลกเสมือนจริงทั่วประเทศ
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวอีกว่า สำหรับคดีการยิงน้องหยอดและครูเจี๊ยบ กลุ่มคนเหล่านี้ที่ถูกจับกุมตัวมาในวันนี้ ยังมีการวางแผนก่อเหตุ ได้ถอดแบบแผนประทุษกรรมคดีเก่า เหตุการณ์เก่าตั้งแต่ปี 65 จนถึงต้นปี 67 ที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางว่าทำอย่างไรและลงมือก่อเหตุอย่างไรจะรอดพ้นจากการจับกุมของตำรวจ
โดยก่อนก่อเหตุมีการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ร่มเกล้า พื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์นี้มีครูบาอาจารย์หรือผู้บริหารสถานศึกษาเกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือหรือสนับสนุน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลระบุว่า ตนมองว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้มันเป็นการกระทำของคนที่ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกปัจจุบัน แต่พยายามสร้างบทบาทให้ตัวเองมีตัวตนขึ้นมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้คดีนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาและไม่ถูกศาลยกฟ้องในอนาคต ดังนั้น การใช้นิติวิทยาศาสตร์จึงมีส่วนสำคัญ ในช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมตรวจดีเอ็นเอในรถยนต์และบ้านพักของผู้ต้องหากลุ่มนี้ ย่านไทรน้อยจังหวัดนนทบุรี เพิ่มเติม
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังเปิดเผยอีกว่าสำหรับหมายจับที่ศาลออกหมายให้ทั้งหมด 5 หมายนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ 2.คืออั้งยี้ซ่องโจร ส่วนการออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายช่วงเช้าที่ผ่านมา เดิมทีศาลออกหมายค้นให้จำนวน 6 หมาย 6 จุด แต่ตรวจค้นจริง 4 หมาย 4 จุด. -สำนักข่าวไทย