กรุงเทพฯ 14 ก.ค.-มีร่างกฎหมายลูก 1 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยที่น่าสนใจ เพราะหากบังคับใช้จะมีผลต่อคดีของนักการเมืองหลายคน โดยเฉพาะที่ยังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ
ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถือเป็นยาแรงอีกตัวที่เพิ่งคลอดออกมา หลังมีผลบังคับใช้จะมีนักการเมืองเข้าข่ายที่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนี้ โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีอยู่ 4 คดีต้องเดินต่อ ประกอบด้วย คดีการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย, คดีปล่อยกู้ของเอ็กซิมแบงก์, คดีแปลงสัญญาสัมปทานโทรคมนาคม และคดีหวยบนดิน โดยทั้งหมดเป็นคดีที่ถูกจำหน่ายออกจากสารบบชั่วคราว ซึ่งตามร่างกฎหมายใหม่ฉบับนี้ตามมาตรา 67 สามารถพิจารณาคดีต่อได้ โดยไม่ต้องรอจำเลยปรากฏตัวต่อศาล และสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ ตามมาตรา 26 และ 27
ส่วนคดีที่ศาลพิพากษาแล้ว อย่างคดีที่ดินรัชดาฯ ของนายทักษิณ และคดีจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของนายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คดีที่ดินคลองด่านของนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ยังหลบหนีคดีอยู่ ตามมาตรา 24/1 ของร่างกฎหมายนี้ จะไม่นับอายุความ และไม่ยกเว้นโทษจำคุกตอนที่ศาลตัดสินไม่ว่าผู้ต้องหาจะหนีคดีไปนานเท่าใดก็ตาม
สำหรับคดีอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของนักการเมือง ทั้งคดีรับจำนำข้าว คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร และคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 51 ก็ถือว่าเข้าข่ายตามกฎหมายนี้ หากหลบหนี สามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ตามมาตรา 26 และ 27 และไม่นับอายุความ
อย่างไรตาม ในฐานะผู้ร่างกฎหมาย ยืนยันไม่ได้กลั่นแกล้งใคร แต่ดำเนินการเพื่อความเป็นธรรม ขณะที่นักการเมืองยังมีความเห็นต่างจากกฎหมายฉบับนี้ มองว่าน่าจะใช้บรรทัดฐานเดียวกันไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือบุคคลทั่วไป
ขั้นตอนของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจาก สนช. ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาว่าตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากไม่ขัด นายกรัฐมนตรีก็สามารถนำความขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไปได้.-สำนักข่าวไทย