“เสี่ยบิ๊ก” เจ้าของรถบรรทุกดาวเขียว ให้ปากคำตำรวจ

กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – “เสี่ยบิ๊ก” เจ้าของรถบรรทุกติดสติกเกอร์ดาวเขียว พร้อมคนขับรถ เข้าให้ปากคำ ด้านตำรวจวางกรอบแนวทางการสอบสวนคดีใน 3 ส่วนหลัก


พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผู้บังคับการกองบังคับการ 10 จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนจเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้เชิญตัวนายพชรพล หรือ “เสี่ยบิ๊ก ดาวเขียว” ผู้ครอบครองรถบรรทุก (เจ้าของรถ) เข้ามาให้ปากคำในทุกประเด็น โดย “เสี่ยบิ๊ก” เดินทางมาพร้อมกับทนายความ และไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับสื่อ

คณะพนักงานสอบสวนยังเชิญตัวนายศักดิ์มงคล หรือ บอย คนขับรถที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้ เข้ามาสอบปากคำพร้อมกันด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาสอบปากคำทั้งวัน เพราะต้องสอบให้ครบทีเดียวหลายส่วน ทั้งในส่วนของคดี สน.พระโขนง และจเรตำรวจแห่งชาติ


สำหรับกรอบแนวทางการสอบสวน มีรายงานว่า ตำรวจได้กำหนดกรอบการสอบสวนของคดีนี้ใน 3 ส่วนหลัก ส่วนแรก คือ การสอบสวนเกี่ยวกับพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อวานนี้ (9 พ.ย.66) เวลาประมาณ 22.00 น. ตำรวจได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับบ่อพักจุดอื่นๆ และติดตามการก่อสร้างคานเหล็กเดิม โดยส่วนนี้จะต้องมีการสอบปากคำและขอข้อมูลจากวิศวกรรมสถานฯ ร่วมด้วย

ส่วนที่ 2 คือ ตรวจสอบกรณีมีคลิปปรากฏการขนถ่ายน้ำมัน ซึ่งได้มีการเรียกสอบบุคคลที่ปรากฏในภาพว่าเป็นผู้ขนถ่ายน้ำมันแล้ว ส่วนถังน้ำมันที่ถ่ายออกมา จะส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ

ส่วนที่ 3 คือ การสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ควบคุมงานโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ผู้ควบคุมดูแลบ่อดินจุดเกิดเหตุ ผู้ดูแลสถานที่เทดินบริเวณรามอินทรา 19 พนักงานตักดินของโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม ผู้ที่อยู่บริเวณกองดินจุดเกิดเหตุ คนขับรถบรรทุกทั้ง 3 คันของเสี่ยบิ๊ก รวมถึงคันที่เกิดเหตุ ขอข้อมูลจากนายกสมาคมขนส่งฯ ในเรื่องของสติกเกอร์ สอบปากคำพนักงานที่ทำความสะอาดคราบน้ำมันในจุดเกิดเหตุ สอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของสติกเกอร์ สอบปากคำรถบรรทุกทุกคันที่ขับเข้าออกโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม และบริษัทที่การไฟฟ้านครหลวงรับจ้างมาดำเนินการขุดบ่อ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง