โรงแรมรามาการ์เด้นส์ 6 พ.ย.-“สมศักดิ์” ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากร จี้ทุกหน่วยงานร่วมบูรณการทั้งระบบ หวังแก้ปัญหาน้ำท่วม-แล้ง ถาวร
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานบูรณาการสื่อสารแผนบริหารทรัพยากรน้ำลดเสี่ยงขาดแคลนน้ำจาก”เอลนีโญ” ประจำปี 2566 โดยย้ำว่ารัฐบาลตระหนักและให้ความสำคัญกับการบริหารและจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ เพื่อให้เกิดความสมดุล และเพียงพอในทุกกิจกรรมการใช้น้ำ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ใน 1-2 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มที่หลายพื้นที่ของไทย อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เอลนีโญ ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ ทั้งด้านการอุปโภค-บริโภค การเกษตร และอุตสาหกรรม ดังนั้นจะต้องการบ้านในเรื่องการพยากรณ์อากาศเพิ่ม เพื่อให้เกิดความพอดี โดยจากการรับฟังการรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวันนี้มี สทนช.มาบูรณาการร่วมกัน ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เรื่องน้ำ ถือว่า มีความสำคัญกับทุกภาคส่วน รวมถึงต้องช่วยกันศึกษาในการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ เพราะเป็นสาเหตุของความเสียหาย โดยไม่ใช่พูดแต่เรื่องการแก้ปัญหากลางน้ำ หรือ ปลายน้ำเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ ผมได้หารือกับธนาคารโลก ให้ช่วยไปศึกษาการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำแล้ว และนอกจากเรื่องน้ำ เรายังจำเป็นต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องดินด้วย เพราะหากแห้งแล้ง ดินแตก จะสร้างความเสียหายอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคการเกษตร“ นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย หากเรายังมีการใช้กฎหมายเดิม ทำให้ไม่สามารถเข้าไปพัฒนาสร้างอ่างเก็บน้ำให้ใหญ่ขึ้นได้ โดยหากเราเปลี่ยนมุมมอง ช่วยกันสร้างความชุ่มชื้น มีที่เบรคน้ำ ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ เพราะหากเรายังไม่เริ่มเปลี่ยนแปลงการแก้ปัญหาที่ต้นน้ำ ก็จะมีผลกระทบตามมาอีกจำนวนมาก รวมถึงต้นไม้อาจแห้งตายจากภัยแล้งด้วย ตนจึงขอให้ช่วยกันศึกษาดู เพื่อทำให้เกิดการแก้ปัญหาแบบถาวร และการจัดงานในวันนี้ เพราะต้องการให้ทุกหน่วยงาน ช่วยกันบูรณาการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ เพื่อทำให้เกิดความพอดี มีสมดุล และเกิดประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตร และปศุสัตว์ ซึ่งต้องยอมรับว่า การบริหารจัดการน้ำ สทนช.ไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง โดยต้องมีทุกหน่วยงานมาช่วยกันขับเคลื่อน ส่วนสถานการณ์เอลนีโญ มีแนวโน้มดีขึ้น เพราะขณะนี้ อ่างเก็บน้ำทั้งประเทศมีประมาณ 70% ของความจุแล้ว ขณะเดียวกันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็มีความห่วงใยน้ำในภาคอุตสาหกรรม แต่ได้รับรายงานว่า น้ำเพียงพอแล้ว ทำให้ปีนี้ ไม่น่าจะมีปัญหา
สำหรับความเป็นไปได้ในการตั้งกระทรวงน้ำนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนก็กำลังมองและศึกษาข้อมูลอยู่ เพราะต้องยอมรับว่า เรื่องน้ำเป็นภารกิจที่สำคัญมาก. สำนักข่าวไทย