กรมราชทัณฑ์ ยืนยันปล่อยตัว “เปรมชัย” ตามเกณฑ์

17 ต.ค. – “ราชทัณฑ์” ยืนยันปล่อยตัว “เปรมชัย” ผู้ต้องขังคดีฆ่าเสือดำ โดยไม่ติดกำไล EM ข้อเท้า ย้ำไม่ Double Standard รวย-จนมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นเหมือนกัน


นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าวันนี้ (17 ต.ค) มีผู้ต้องขังเข้ารับการพิจารณาลดวันต้องโทษจำคุก จำนวน 567 คน ไม่ผ่านการอนุมัติ 83 คน และได้รับการอนุมัติ 484 คน โดยผู้ต้องขัง 484 คน มีผู้ได้รับการอนุมัติปล่อยตัววันนี้ทันที 113 คน ในจำนวนนี้มีนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องขังคดีฆ่าเสือดำ ซึ่งต้องโทษอยู่ที่เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี รวมอยู่ด้วย

พร้อมย้ำว่าการลดวันต้องโทษจำคุก พิจารณาตามหลักเกณฑ์ ซึ่งจะมีการพิจารณาเดือนละ 1 ครั้ง ในวันพรุ่งนี้ และวันถัดๆ ไป ก็จะมีผู้ต้องขัง ที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการปล่อยไปเรื่อย ๆ เพราะหากรอให้ครบ 1 เดือน ที่มีการประชุมจะทำให้ผู้ต้องขังที่ได้ลดวันต้องโทษก่อน จะถึงวันประชุมเสียโอกาส


กรณีนายเปรมชัย ความจริงจะต้องรับโทษจำคุกถึงวันที่ 7 ธันวาคมนี้ แต่ที่ผ่านมานายเปรมชัย มีวันสะสม คือวันที่ต้องลดการต้องโทษจำคุก จึงได้รับการปล่อยตัวเพื่อคุมประพฤติ แต่มีเงื่อนไขจะต้องมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติทุก ๆ 1 เดือน จนครบกำหนดโทษจำคุก 7 ธันวาคม 2566 โดยวันนี้ นายเปรมชัย ถือว่าอยู่ในความดูแล ของสำนักงานคุมประพฤติแล้ว

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าการปล่อยตัวนายเปรมชัย เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ต้องขังทุกคนจะได้รับ หากเข้าหลักเกณฑ์ ผ่านการประเมินและการพิจารณา ก็จะได้รับการปล่อยตัวทุกคน ยกเว้นในกรณีที่ผู้ต้องโทษรายนั้น ๆ เอกสารยังไม่ครบ หรือศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายแล้วยังไม่ชดใช้ค่าเสียหาย หรือผู้ต้องขังบางรายเมื่อออกไปแล้วสืบเสาะได้ว่าญาติของผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายเสียชีวิต ยังติดใจ หรือมีความคาใจไม่เห็นด้วยกลับการปล่อยตัวคุมประพฤติ ก็จะต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาอีกครั้ง

กรณีนายเปรมชัย คณะกรรมการฯ ซึ่งมีจากหลายหน่วยงานได้พิจารณาแล้วและเห็นว่านายเปรมชัย ถูกจำคุกมาเกือบ 2 ปีแล้ว และที่ผ่านมาประพฤติปฏิบัติตัวอยู่ในหลักเกณฑ์ มีการชดใช้ค่าเสียหายแล้ว หากมีผู้ไม่เห็นด้วยกับการปล่อยตัวนายเปรมชัย ก็ต้องขึ้นกับดุลพินิจของคณะกรรมการที่พิจารณาปล่อยตัว ทั้งที่ในความเป็นจริงก็ไม่มีช่องทางให้ผู้เห็นต่างได้ยื่นอุทธรณ์หรือคัดค้าน การปล่อยตัวนายเปรมชัย ถือเป็นที่สิ้นสุดและมีผลตามกฎหมายแล้ว


ส่วนกรณีได้รับการยกเว้นใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM นั้น รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า นายเปรมชัย มีประวัติการรักษาตัวตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้าเรือนจำ มีปัญหาด้านสุขภาพทั้งอายุ น้ำหนักตัว นั่งกับพื้นไม่ได้ต้องใช้เก้าอี้พลาสติกเล็ก ๆ รองนั่ง โดยมีข้อมูลการรักษาต่อเนื่อง แม้กระทั่งเคยขอออกไปรักษากับโรงพยาบาลภายนอก แต่ราชทัณฑ์ เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้นก็ไม่อนุญาตให้ออกไป

กรณีการรักษาโรคเบาหวาน โดยมีการคว้านเนื้อตายที่ข้อเท้า ทำให้ใส่กำไล EM ไม่ได้เกรงว่า โรคจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง หากมีผู้ติดใจสงสัย และเจ้าตัวยินยอมเปิดเผยประวัติทางการแพทย์ ก็สามารถขอดูประวัติการรักษาได้ ซึ่งมีการรักษาจริง ทั้งนี้ ย้ำว่าการติดกำไล EM จะพิจารณาเป็นเคสบายเคส ไม่ใช่ว่าผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติจะต้องใส่กำไล EM ทุกคน ซึ่งกรณีพิจารณาแล้วไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และเหลือโทษคุมประพฤติอีกประมาณ 2 เดือน เช่น กรณีนายเปรมชัย ก็อยู่ในดุลพินิจว่าไม่จำเป็นต้องติดกำไล EM

สำหรับผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ มีเงื่อนไขต้องมารายงานตัวต่อสำนักงานคุมประพฤติทุก ๆ 1 เดือน ส่วนการออกนอกพื้นที่ไม่มีคำสั่งห้าม แต่จะต้องขออนุญาตศาลทุกครั้งที่จะออกนอกพื้นที่ เช่นนายเปรมชัย แจ้งว่าช่วงคุมประพฤติจะพักอยู่ที่บ้านในกรุงเทพฯ แต่จู่ ๆ จะเดินทางไป พัทยา จ.ชลบุรี ก็จะต้องยื่นเรื่องผ่านสำนักงานคุมประพฤติ เพื่อยื่นต่อศาลขอออกนอกพื้นที่

นายสิทธิ กล่าวว่า การพิจารณาปล่อยตัวคุมประพฤติผู้ต้องขังยึดหลักความเท่าเทียมไม่ Double Standard หรือ 2 มาตรฐาน พร้อมยกตัวอย่างว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง “โนเนม” ที่เจ็บป่วยเกินขีดความสามารถรักษาของทางเรือนจำและโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถูกส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก ซึ่งมีจำนวนเยอะมาก ไม่เฉพาะผู้ต้องขัง VIP ที่ได้รับสิทธิ์ไปรักษาภายนอกแต่มักเป็นข่าวเฉพาะผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียงเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”