ราชทัณฑ์ เผย 18 บอสดิไอคอน ยังเครียด ไม่ยิ้ม คุยกันน้อยลง

บอสดิไอคอน

19 ต.ค.- กรมราชทัณฑ์ เผยอาการล่าสุด 18 บอสดิไอคอน ยังคงมีอาการเครียด ไม่มีรอยยิ้ม สนทนาระหว่างกันน้อยลง

ตามที่ศาลอาญาอนุญาตให้พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ฝากขัง ผู้ต้องหาระดับผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 18 ราย ฐานความผิดข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือ โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวทั้งหมด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง แล้วนั้น


กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ผู้ต้องหาทีมผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด จำนวน 17 ราย ซึ่งรวมถึงนักแสดง 3 ราย ที่ประชาชนให้ความสนใจ ได้เข้าสู่กระบวนการรับตัวคนเข้าใหม่ ตรวจสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อทำประวัติด้านสุขภาพ รวมถึงผู้ต้องขังบางรายที่มีโรคประจำตัว ทางเรือนจำอนุญาตให้ใช้ยาประจำตัวได้ จากนั้นได้เข้าสู่ขั้นตอนการแยกกักตัว 5 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 กรมราชทัณฑ์ ได้รับตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 1 ราย คือ นายรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ไว้ในการควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว โดยทั้ง 18 ราย สามารถพบทนายความ และพบพนักงานสอบสวนทางออนไลน์ได้ และหากญาติประสงค์จะเดินทางเข้าเยี่ยมจะต้องรอให้ครบกำหนดกักโรค ในระยะเวลา 5 วัน หากไม่พบว่ามีการติดเชื้อใด ๆ จึงจะสามารถประสานลงทะเบียนจองเยี่ยมญาติได้ต่อไป

ทั้งนี้ ผู้ต้องขังทั้งหมดจะอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการสังเกตอาการพบว่า ยังคงมีอาการเครียด ไม่มีรอยยิ้ม และบ่อยครั้งมีการสนทนาระหว่างกันน้อยลง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกคนเมื่อเข้ามาภายในเรือนจำ เป็นการเปลี่ยนสถานที่และสิ่งแวดล้อม อาจปรับตัวยากต้องใช้ระยะเวลาในการปรับสภาวะจิตใจ ส่วนใหญ่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้บ้าง รับประทานอาหารได้เล็กน้อยสำหรับประเด็นเรื่องการตัดผมของผู้ต้องขังนั้น ผู้ต้องขังชายระหว่างพิจารณาคดี จะต้องตัดผมรองทรงสูงทุกราย ซึ่งจะแตกต่างจากผู้ต้องขังเด็ดขาดชาย ส่วนผู้ต้องขังหญิงระหว่างพิจารณาคดีให้ไว้ผมยาวเลยบ่าได้ แต่ให้รวบผมหรือผูกผมให้เรียบร้อย เพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดี


นอกจากนี้ เมื่อผู้ต้องขังทั้งหมดครบระยะเวลาการกักโรค ก็จะถูกจำแนกไปยังแดนแรกรับของแต่ละเรือนจำฯ ในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จะถูกควบคุมอยู่ที่แดนแรกรับและทัณฑสถานหญิงกลาง จะเป็นแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาอยู่ในแดนแรกรับของเรือนจำฯ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินให้เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดต่อไป . -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม