พระนครศรีอยุธยา 17 ต.ค.-บก.ปคบ. ตรวจยึดปุ๋ยปลอม ที่โกดัง ใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รอง.ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง.ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง.ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ รอง ผกก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคบ. นำโดย พ.ต.ท.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 บก.ปคบ. พร้อมกำลัง ชป.4 กก.2 บก.ปคบ. ร่วมกับ พนักงานเจ้าหน้าที่กลุ่มสารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร นำโดย นายธรรมรัตน์ ทองมี ผู้อำนวยการกลุ่มสารวัตรเกษตร พนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร กรมวิชาการเกษตร
ตามที่ กก.2 บก.ปคบ.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีปุ๋ยปลอมขายตามร้านค้าเกษตรกรทางภาคตะวันออก ทางภาคใต้ และโฆษณาขายตามเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนหาข่าวจึงพบแหล่งที่ต้องสงสัยผลิตปุ๋ยปลอม ที่โกดังหมายเลข 10 ม.12 ถนน บางปะอิน-บางไทร ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ลักลอบจำหน่าย ผลิต ปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ. 2518 และแก้ไขเพิ่มเติม
ต่อมา วันที่ 16 ต.ค.66 พ.ต.ท.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 บก.ปคบ. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 พร้อม นายธรรมรัตน์ ทองมี ผู้อำนวยการกลุ่มสารวัตรเกษตร พนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร กรมวิชาการเกษตร ได้เข้าตรวจสอบ
พบ นายหนึ่ง (นามสมมุติ) แสดงตนเป็นผู้จัดการบริษัทฯ นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบปุ๋ยปลอมรวมมูลค่าความเสียหาย 10 ล้านบาท
เนื่องจากผลิตภัณฑ์ปุ๋ยปลอมดังกล่าวที่ตรวจพบต้องสงสัยว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 และแก้ไขเพิ่มเติม พนักงานเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ที่ กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนกฎหมาย ในฐานความผิด ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต เพื่อการค้า ขาย หรือนำเข้าปุ๋ย ปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสองหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท” ตาม พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.2518 มาตรา 30(1),64 เจ้าพนักงานชุดดังกล่าวจะได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด และผู้กระทำผิดอื่นที่สอบสวนถึง จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมายต่อไป
เนื่องจากปัจจุบัน ปุ๋ยมีราคาแพง พร้อมกลับเกษตรกรชาวไร่ ชาวสวนก็ต้องการปุ๋ยเพื่อใช้ในการทำสวน ทำไร่ และ ต้องได้รับปุ๋ยที่มีคุณภาพ ดังนั้นจึงอยากให้ชาวเกษตรกรชื้อปุ๋ยที่มีคุณภาพ และมาตรฐานจากกรมวิชาการเกษตร โดยการสังเกตดูเลขทะเบียนที่ติดอยู่กับกระสอบปุ๋ยว่าถูกต้องตามที่กรมวิชาการเกษตรออกให้หรือไม่ เพื่อเกษตรกรจะได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ หากเกษตรพบเห็นปุ๋ยปลอมสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค 1135.-สำนักข่าวไทย