ค้น 6 จุด ทลายเครือข่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสงสัยผสมไซบูทรามีน

กทม. 13 มิ.ย.-ทลาย 2 เครือข่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสงสัยผสมไซบูทรามีน ตรวจค้น 6 จุด ยึดของกลาง 16 ล้านบาท

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ร่วมกับคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้องสงสัยว่าผสมไซบูทรามีน 2 ยี่ห้อ โดยเข้าตรวจค้น 6 จุดในพื้นที่ 5 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือนางสาวเพ็ญพิชญา อายุ 26 ปี เจ้าของแบรนด์อาหารเสริม และนางสาวขวัญพัฒน์ อายุ 37 ปี ตัวกลางสั่งผลิตอาหารเสริม พร้อมตรวจยึดของกลางผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องมือผลิตรวม 72 รายการ รวมมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท


ทั้งนี้ หนึ่งในแบรนด์เสริมอาหารที่ตรวจยึดได้ พบว่ามีการส่งออกจากประเทศไทยไปขายที่ไต้หวัน และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรม กรมสอบสวนคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน ได้ตรวจยึดไปวิเคราะห์พบสารไซบูทรามีน นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 4 คน และประสานตำรวจ บก.ปคบ. ไทย และ อย.ไทย สืบสวนขยายผลหาแหล่งผลิตและจัดจำหน่ายเรื่อยมา ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผสมไซบูทรามีนเหล่านี้ มักจะขายผ่านทางออนไลน์ โฆษณาชวนเชื่อว่าเมื่อรับประทานแล้วจะทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ และมีตัวแทนจำหน่ายอยู่ทั่วประเทศ เมื่อกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ของไทยนำตัวอย่างมาตรวจวิเคราะห์ก็พบสารไซบูทรามีนเช่นกัน จึงนำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน

เบื้องต้น นางสาวเพ็ญพิชญา รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของอาหารเสริม 1 ในยี่ห้อที่ถูกจับกุมจริง และได้สั่งผลิตผ่านนางสาวขวัญพัฒน์ เริ่มสั่งผลิตครั้งแรกเมื่อเดือน ม.ค.66 จนถึงปัจจุบัน สั่งผลิตทั้งหมด 6 ผลิตภัณฑ์ โดยได้รับสินค้ามาแล้ว 36,000 กล่อง ราคากล่องละ 115 บาท จากนั้นจึงนำไปจำหน่ายกล่องละ 350 บาท ส่วนนางสาวขวัญพัฒน์ ก็อ้างว่าตนเองเป็นตัวแทนขายของบริษัทรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายยี่ห้อ หลายโรงงาน เมื่อขยายผลจึงได้เชื่อมโยงไปยังผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ที่ 2 ซึ่งมีแหล่งผลิตในพื้นที่เดียวกัน และส่งตรวจพบสารไซบูทรามีนเช่นเดียวกัน โดยยี่ห้อนี้เริ่มจำหน่ายมานานประมาณ 1 ปีแล้ว มียอดขายเฉลี่ย 500-1,200 ออเดอร์ต่อวัน แต่ตำรวจเชื่อว่ายังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกหลายยี่ห้อที่ถูกโรงงานดังกล่าวผลิตขึ้นและผสมสารไซบูทรามีน จึงอยู่ระหว่างขยายผลไปยังผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ เพิ่มเติม.-416-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน