หอการค้าฟันธงเศรษฐกิจปีนี้โตร้อยละ 3.5-4

กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – หอการค้าไทยเชื่อเศรษฐกิจครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่องและดีกว่าครึ่งปีแรก คาดทั้งปีโตร้อยละ 3.5-4 หลังส่งออกฟื้นตัวชัดเจน 


นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 2560 ว่า ทิศทางเศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา  โดยเศรษฐกิจทั้งปีจะขยายตัวในกรอบ 3.5-4.0 สาเหตุที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ การส่งออกฟื้นตัวอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดย 5 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวถึงร้อยละ 7.2 หรือคิดเป็นมูลค่า 93,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  คาดว่าการส่งออกทั้งปีจะขยับใกล้เป้าหมายโตร้อยละ 5 ของกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวคาดว่ายังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย 5 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14.6 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 3.2 ขณะที่เดือนมิถุนายนคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวอีก 2.2 ล้านคนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคครึ่งปีหลัง จากผลการสำรวจนักธุรกิจทุกภูมิภาคเห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ยกเว้นภาคใต้เห็นว่าเศรษฐกิจน่าจะทรงตัวแม้การส่งออกยางพาราขยายตัวดี เพราะภาครัฐมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ภาคตะวันออกรัฐบาลมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะที่การค้าชายแดนทรงตัวและน่าจะดีขึ้นในอนาคต ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยนักท่องเที่ยวจีนมีการเข้ามาท่องเที่ยวเอง มีการใช้จ่ายเงินมากขึ้นและพักยาวขึ้น มีสายการบินใหม่ ๆ บินเข้ามาภูเก็ตมากขึ้น ตุรกีจะเปิดเส้นทางบินส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวรัสเซียจะเข้ามา โดยภาพรวมปรับตัวดีขึ้นและจะดียิ่งขึ้นอีกจากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business) การจัดตั้งธุรกิจใช้เวลาลดลงเหลือเพียง 2 วันดีมาก มีการจัดตั้งศูนย์บุคลากรทักษะสูง (Strategic Talent Center: STC) เป็นต้น 


นายกลินท์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลออก พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560  เพื่อจัดระเบียบแรงงานต่างได้ให้ได้มาตรฐานสากลว่าหอการค้าไทยเห็นด้วยกับการออกกฎหมายฉบับนี้ แต่วิธีการดำเนินการยังมีปัญหาต้องปรับปรุง เช่น การกำหนดค่าปรับสูงเป็นสิ่งที่ไม่เห็นด้วย สำหรับการเลื่อนบังคับใช้กฎหมาย 4 มาตรา ออกไป 180 วัน นั้น เป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อนายจ้างและแรงงานที่จะปรับตัว แต่ภาครัฐควรที่จะต้องมีวิธีการแก้ไขให้แรงงานเข้าสู้ระบบได้โดยเร็ว เพราะว่างานหลายอย่างคนไทยเลือกที่จะไม่ทำแล้ว เช่น งานเก็บผลไม้ งานแม่บ้าน เป็นต้น หากสามารถแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้ก็จะทำให้แรงงานต่างชาติสามารถเข้ามาทำงานได้อย่างถูกต้อง ส่วนแรงงานต่างชาติไหลออกไปนั้น มีจำนวนไม่มากกว่า 20,000 คน ที่ด่านแม่สอด และเชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ไขได้ปัญหาได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง