วิเคราะห์ พ่อฆ่าลูก 5 ศพ ด้านชาต่อความรุนเเรง

กทม. 23 ก.ย.- อธิบดีกรมสุขภาพจิต วิเคราะห์เหตุพ่อฆ่าลูก 5 ศพ จิตใจด้านชาต่อความรุนเเรง เเนะสังคมร่วมใส่ใจกันเเละกัน


พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยกับทีมข่าวกองบรรณาธิการข่าววิทยุสำนักข่าวไทย วิเคราะห์พฤติกรรม จากคดีพ่อแท้ๆ ฆ่าลูกตัวเองต่อเนื่อง 5 ศพ ซึ่งกำลังเป็นคดีสะเทือนใจ ว่า จากการวิเคราะห์สาเหตุจากนักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักอาชญวิทยานั้น พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความโหดร้ายอย่างมาก ในแง่ของผู้กระทำต่อคนในสายเลือดเดียวกัน สะท้อนสภาพจิตใจที่ด้านชาต่อความรุนแรง มีแนวโน้มใช้ความสุข ความต้องการตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เห็นใจใครเลย และเกือบ 100% มักเคยเป็นเหยื่อ หรือคลุกคลีกับความรุนแรงตั้งแต่อายุยังน้อย และเรียนรู้การกลบความรุนแรง เพื่อปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้ และปิดซ่อนเพื่อให้เหยื่อถูกทำร้ายไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ข่าวนี้จะน่าสนใจ น่าติดตาม รับฟังข่าวด้วยความเป็นห่วง แต่ผลกระทบทางอ้อม จากการติดตามข่าวคือ เกิดความกดดันความรู้สึกอย่างมาก ช่วงแรกจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อรับรู้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทางอ้อม และน่าเป็นห่วงคือ ความชาชินต่อความรุนแรง หรือการชี้นำทิศทางให้เห็นความรุนแรง หากผู้ที่รับรู้ข่าวนี้มีภาวะจิตใจที่เอื้อต่อการก่อปัญหาได้


สำหรับการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่ระดับเล็กที่สุด คือครอบครัว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ต้องดูแลกันและกันโดยไม่ใช้ความรุนแรง รวมถึงการเป็นต้นแบบที่ดีในครอบครัว

นอกจากนี้ พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงเกินกว่าปกติ อาจเกิดจากเด็กบางคนมีปัญหาสุขภาพกายเข้ามาเกี่ยวข้อง มีข้อมูลว่า บางคนมีปัญหาทางสมองบางเรื่อง อาจมีสมองบางจุดไม่พัฒนาเท่าที่ควร สติปัญญาบางด้านไม่สมบูรณ์

การเเก้ไขปัญหาระดับสังคม ต้องร่วมกันใส่ใจกันและกันอย่างถูกวิธี ไม่ปล่อยให้ผู้ใหญ่ใช้เด็กที่พิการ หรือน่าสงสาร น่าเห็นใจ กลายเป็นแหล่งเรียกร้องความช่วยเหลือแบบผิดๆ ซึ่งในคดีนี้ยังต้องรอการพิสูจน์จากตำรวจ แต่ที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีแบบนี้ โดยการทำให้เด็กเกิดความพิการและนำไปขอทาน ดังนั้นสังคมต้องฉุกคิดว่ากำลังช่วยเหลือ หรือทำให้เด็กตกเป็นเหยื่อมากขึ้น และสังคมต้องช่วยกันสอดส่องเหยื่อที่กำลังถูกคุกคาม ว่ามีมากแค่ไหน ช่วยเหลืออย่างไร ยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิในการช่วย และปกป้องเด็กตามกฎหมาย หากพบเห็นความรุนแรงสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเข้าช่วยเหลือได้ และสังคมต้องรีบปรับตัว อย่าเกรงกลัวต่อการต้องเผชิญกับเรื่องยุ่งยาก .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน