นักวิชาการคาดเฟดตรึงดอกเบี้ย

สหรัฐอเมริกา 17 ก.ย. – นักวิชาการคาดเฟดตรึงดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า มองนัดหยุดงานครั้งใหญ่ของ UAW หากยืดเยื้อเกิน 2 เดือน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจทันทีไม่ต่ำกว่า 5-9.1 พันล้านดอลลาร์


นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คาดธนาคารกลางสหรัฐตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี แม้มีแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่ม อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 3.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อฟื้นฐานอยู่ที่ 4.3% เงินเฟ้อทั่วไปเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.6% เพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้ แต่ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ขึ้นไปสูงถึง 9.1% เดือนมิถุนายนปีก่อน สะท้อนว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงที่ผ่านมาเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ผลดีระดับหนึ่ง

ในการประชุมสัปดาห์หน้า 19-20 กันยายน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบัน 5.25%-5.50% และ อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับนี้หรือปรับขึ้นช่วงปลายปีอีกครั้งหนึ่งขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสสี่ปีนี้ โดยคาดว่า อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงสุดซึ่งสะท้อนนโยบายการเงินเข้มงวดจะดำเนินไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อกลับคืนสู่เป้าหมาย 2% ซึ่งคาดการณ์จะเกิดขึ้นได้ในช่วงกลางปีหน้า และ มองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 การทำนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจระยะสั้น
 
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า การนัดหยุดงานครั้งใหญ่ของ UAW อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาทันทีไม่ต่ำกว่า 5-9.1 พันล้านดอลลาร์หากการประท้วงยืดเยื้อเกิน 2 เดือน แต่ทำให้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจลดลงในระยะยาว หากมีการปรับเพิ่มค่าแรงและสวัสดิการตามที่สหภาพแรงงาน UAW เรียกร้อง Anderson Economic Group ประเมินเบื้องตัน การนัดหยุดงานของสมาชิกสหภาพแรงงาน UAW ของบริษัท Ford บริษัท General Motors บริษัท Stellantis หยุดงานประท้วงประมาณ 10 วัน เบื้องต้นจะเกิดความเสียหายและต้นทุนทางเศรษฐกิจประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์หรือ 179,500 ล้านบาท ผลผลิตรถยนตร์หายไปจากตลาด 25,000 คันต่อการหยุดงาน 10 วัน


ขณะที่ หน่วยงานวิจัยเศรษฐกิจอย่าง Ehrlich Research Group มหาวิทยาลับมิชิแกน ระบุว่า การกระจายตัวของผลกระทบต่อรายได้ รายได้ประชาชาติสหรัฐอเมริกายังจำกัดในระยะสั้น หากมีการประท้วงหยุดงานประมาณสองสัปดาห์จะกระทบต่อรายได้ประชาชาติประมาณ 440 ล้านดอลลาร์หรือ 15,796 ล้านบาท ขณะที่ หากการประท้วงหยุดงานยืดเยื้อมากกว่า 2 เดือนขึ้นไป การประท้วงหยุดงานจะขยายวง ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะขยายวงสู่ 9.1 พันล้านดอลลาร์หรือ 329,690 ล้านบาท สมาชิกสหภาพแรงงานที่นัดหยุดงานจะได้รับเงินสนับสนุนจาก UAW สัปดาห์ละ 500 ดอลลาร์ อันเป็นการสนับสนุนที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพหากมีนัดหยุดงานนานๆ การชุมนุมประท้วงหยุดงานจะส่งผลต่อธุรกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่หยุดงานประท้วง  อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนคอมพิวเตอร์ชิป (Computer Chip) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

และได้ปิดโรงงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด หลายโรงงานและหลายบริษัทปิดโรงงาน ล้มละลาย ปลดคนงานและลดเงินเดือน ค่าตอบแทนและสวัสดิการของคนงานในช่วงปี พ.ศ. 2563 โดยธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2564 และมีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ค่าตอบแทนผู้บริหารเพิ่มขึ้นประมาณ 40% จากระดับปี พ.ศ. 2562 การเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงาน UAW จึงมีความชอบธรรมเพื่อให้ได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม จากระดับที่ถูกลดลงอย่างมากในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโควิดปี 63 จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่า ส่วนใหญ่มากกว่า 70% สนับสนุนให้มีการนัดหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่เป็นธรรม จึงคาดว่า การประท้วงไม่น่าจะยืดเยื้อ การเจรจาน่าจะจบเร็ว   อย่างไรก็ตาม การประท้วงยืดเยื้อส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ทิศทางของนโยบายการเงินในระดับหนึ่ง รวมทั้งผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า โจทย์ของบริษัทยานยนต์สหรัฐอเมริกาทำอย่างให้แข่งขันได้เมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น          

สิ่งที่ต้องติดตาม คือ การประท้วงนัดหยุดงานจะขยายวงไปยังโรงงานอื่นๆหรือไม่ และส่งผลอย่างไรต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลก ส่งผลอย่างไรต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย ซึ่งมีผลกระทบทั้งทางบวกและลบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยได้ เพราะ ไทยเคยเป็น “ดีทรอยต์ออฟเอเชีย” ในยุคผลิตรถยนต์แบบเครื่องยนต์สัปดาปภายใน อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ อยู่ที่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ไม่ใช่รถยนต์สันดาปภายในที่ปล่อยมลพิษอากาศมากกว่า ไทยเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนของรถยนต์สันดาปภายในรายใหญ่ รถอีวีไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนพวกนี้ โรงงานผลิตชิ้นส่วนภายในจะหายไป ขณะเดียวกัน หากจะปรับตัวไปทำแบตเตอรี่ ประเทศไทยไม่มีทรัพยากรสินแร่สนับสนุนอย่างพวกลิเทียมหรือโคบอลต์ต่างๆ โรงงานในไทยจะเป็นเพียงโรงงานฐานการผลิตประกอบแบตเตอรี่ ผู้ประกอบการประกอบแบตเตอรี่จะมีมูลค่าเพิ่มไม่มาก อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์จะลดขนาดลงไปมาก รัฐบาลและภาคธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องเร่งปรับโครงสร้างเพื่อเตรียมรับพลวัตการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอ เข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ