fbpx

นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ภาคเอกชนประสานเสียง เร่งตั้งนายกฯ

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. -นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ภาคเอกชนประสานเสียง เร่งตั้งนายกฯ และ ครม. บริหารประเทศ เตือนไทยเผชิญสุญญากาศเศรษฐกิจ 2 เดือน


รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการบริหารสถาบันปรีดี พนมยงค์ กล่าวว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่ง 5 ต่อ 4 เสียง ต้องการให้รัฐสภาจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อแสดงให้ต่างชาติ นักลงทุน ภาคเอกชน เห็นว่าระบบการเมืองไทยสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง หากยังต่อรองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ลงตัว ยอมรับระบอบประชาธิปไตยแบบไทย ๆ มีอะไรไม่เป็นไปตามคาดการณ์ได้ตลอด จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลต่อการฟื้นเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เมื่อต่างชาติเกิดข้อสงสัย จะกระทบต่อการลงทุน เพราะที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล ถูกยุบพรรคไปแล้ว ทำให้ถูกมองว่าเสียงของประชาชนเลือกตั้งเข้ามาไม่มีความหมาย โดยถูกตัดสินจากตุลาการ 9 ท่าน จากรัฐบาลรัฐประหารในช่วงที่ผ่านมา

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่าผลตัดสินดังกล่าว ทำให้ ครม.ทั้งคณะต้องหลุดไปด้วย ภาคเอกชนขอให้กำลังใจรัฐสภา ต้องเร่งแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และ ครม.ชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่หยุดชะงัก ขณะนี้ไทยเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ภาคเอกชนจึงอยากให้มีผู้นำมาบริหารประเทศโดยเร็ว เพราะหัวใจสำคัญขณะนี้คือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคม จะทำให้เราเปลี่ยนผ่านไปได้ โดยภาคเอกชนเข้าใจถึงกระบวนการยุติธรรมในการตัดสินใจออกมาตามข้อกฎหมาย แต่อยากให้รัฐสภาตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศโดยเร็ว


รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุ ผู้อำนวยการ หลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) กล่าวว่า ในปี 67 นี้ ไทยเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจหลายด้าน ทั้งงบประมาณรายจ่ายปี 67 เริ่มใช้ได้ในช่วงเดือนเมษายน งบลงทุนกว่าจะเบิกจ่ายได้ในเดือนพฤษภาคม การส่งออกครึ่งแรก ขยายตัวเพียงร้อยละ 2 หนี้ครัวเรือนสูง หนี้สาธารณะร้อยละ 64 ของจีดีพี ขณะที่งบประมาณรายจ่ายปี 68 แม้ส่งให้วุฒิสภาพิจารณา ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ลงนามพระปรมาภิไทย

ปัญหาดังกล่าว จึงทำให้ขาดกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะทุกอย่างจะชะงักงัน กลายเป็นสุญญากาศทางเศรษฐกิจ ช่วง 2 เดือน ขาดเครื่องมือทางการเงิน การคลัง ในช่วงที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเศรษฐา เดินทางไปโรดโชว์ชักชวนการลงทุนรายใหญ่จากต่างประเทศ ต้องหยุดชะงักไป เพราะต้องรอนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ จึงทำให้การลงทุนหยุดชะงัก ชะลอออกไป มองว่า ในปี 67 นี้ จีดีพีของไทยอาจขยายตัว บวก-ลบ ร้อยละ 2 จากเดิมคาดการณ์เติบโตร้อยละ 2.4-2.6

หากมองในมุมบวก ต้องรอดูว่านโยบายของ ครม.ชุดใหม่ จะผลักดันเศรษฐกิจอย่างไรให้เป็นผลรูปธรรม อาจมีการปรับปรุงแผนอะไรใหม่ จุดประกายความหวังให้กับประชาชน นักลงทุน และต่างชาติในทางที่ดีขึ้นจากนโยบายใหม่ ๆ สำหรับการโอนเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนไปแล้ว หากมีการปรับปรุงรูปแบบ ตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เช่น การใช้เงินแบบคนละครึ่ง เพราะการเน้นดิจิทัลมากเกินไป ประชาชนบางกลุ่มอาจเข้าไม่ถึง มองว่าเงินดิจิทัลยังช่วยแก้ปัญหาเติมกำลังซื้อได้แต่ต้องปรับปรุง เพื่อลดการสร้างหนี้เพิ่มเติม.-515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง เกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สตูล เพิ่มความรุนแรง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วน จ.ภูเก็ต ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลบริเวณปฎักซอย 8 บ้านกะตะ ต.กะรน ที่เคยเกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด ปรากฏภาพน้ำและดินโคลนไหลลงมาจากบนเขา สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน เพราะยังไม่มีมาตรการป้องกัน

ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยชาวเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ปัญหาที่ชาวเชียงรายต้องเผชิญคือดินโคลนที่ยังต้องรอการฟื้นฟู หลายคนยังทำใจไม่ได้ แต่ฮึดสู้จากธารน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ส่งไปช่วยเหลือและให้กำลังใจสู้วิกฤติครั้งนี้

ชายแดนเสียหายหนัก “แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก” ยังจมโคลน

น้ำท่วมชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาเกือบสัปดาห์ลดลงเกือบหมดแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายอย่างหนัก ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา เต็มไปด้วยโคลนมหาศาลท่วมอาคารบ้านเรือน ทำให้หลายคนยังกลับเข้าไปอาศัยในบ้านไม่ได้

เร่งสูบน้ำบรรเทาน้ำท่วมตัวเมืองหนองคาย

หลังแม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าสู่วันที่ 5 วันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนต่ำกว่าแนวพนังกั้นน้ำถาวรแล้ว ทำให้สามารถสูบน้ำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะเห็นน้ำในตัวเมืองหนองคาย ลดระดับลงอย่างชัดเจน