มิสซา

มาดริด 25 พ.ย.- ประชาชนจำนวนมากไปร่วมพิธีมิสซาที่โบสถ์เป็ดในกรุงมาดริดของสเปน ซึ่งตกแต่งด้วยเป็ดยางสีเหลือง และมีนักแสดงตลกทำหน้าที่บาทหลวง โบสถ์แห่งนี้มีชื่อว่า ปาติกาโน (Paticano) ตั้งอยู่ในย่านลาบาเพียส์ ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์ของกรุงมาดริด โดยมีลีโอ บาสซี นักแสดงตลกทำหน้าที่บาทหลวงประกอบพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์ มีผู้คนมาร่วมอย่างล้นหลาม จนต้องจัดพิธีถึง 3 รอบ  แต่ละรอบใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง  บาสซีเริ่มพิธีมิสซาที่โบสถ์เป็ดแห่งนี้ในปี 2555 หวังให้ผู้คนเคารพในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ และด้วยพลังแห่งโซเชียลมีเดีย โบสถ์แห่งนี้ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ในระหว่างพิธีบาสซีจะพูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันและแทรกอารมณ์ขันเข้าไปด้วย บางครั้งเจ้าตัวก็ส่งเสียงร้อง “แคว่ก ๆ” เหมือนเสียงเป็ด เรียกรอยยิ้มจากผู้ฟังเป็นระยะ และเมื่อวานนี้มีคู่บ่าวสาวถือโอกาสมาแลกแหวนเป็ดเพื่อเฉลิมฉลองความรักของพวกเขาในระหว่างพิธีมิสซาอีกด้วย.-816(814).-สำนักข่าวไทย

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณ ที่ติมอร์เลสเตในวันอังคาร ซี่งมีชาวคริสต์เข้าร่วม 7 แสนคน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ

มอสโก 5 พ.ค.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเข้าร่วมพิธีมิสซาอีสเตอร์ (Easter mass) ของคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกซ์ที่เริ่มตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเข้าสู่เช้าวันนี้ ที่มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ (Cathedral of Christ the Saviour) หรือมหาวิหารโดมทองในกรุงมอสโก พิธีมิสซาอีสเตอร์นำโดยอัครบิดรคีริลล์แห่งมอสโก ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชแห่งมอสโกและรัสเซียทั้งมวล และเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกซ์ นอกจากประธานาธิบดีปูตินแล้ว ยังมีนายเซอร์เก โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกและคริสต์ชนจำนวนมากเข้าร่วมในพิธีมิสซาและพิธีจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ขณะเดียวกันที่กรุงเคียฟของยูเครน คริสตชนชาวยูเครนเข้าร่วมคืนตื่นเฝ้า (Easter vigil) ที่มหาวิหารเซนต์ไมเคิลเมื่อกลางดึกวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนถึงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวในเวลาเที่ยงคืน และอยู่จนถึงเวลา 05:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเวลาสิ้นสุดเคอร์ฟิว เนื่องจากยังอยู่ในช่วงสงครามกับรัสเซียที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 วันอีสเตอร์ของคริสตชนนิกายออร์โธดอกซ์นับตามปฏิทินจูเลียน ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม จึงมักจะช้ากว่าวันอีสเตอร์ของคริสตชนนิกายคาทอลิกที่นับตามปฏิทินเกรกอเรียน และปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม.-814.-สำนักข่าวไทย

มาราวี 3 ธ.ค.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ กล่าวโทษกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดที่โรงยิมในมหาวิทยาลัยขณะที่กำลังมีพิธีมิสซา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บมากกว่า 40 คน ประธานาธิบดีมาร์กอส ประณามการก่อเหตุดังกล่าวว่า เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติที่ไร้เหตุผลและชั่วร้าย ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองมาราวี สถานที่ตั้งมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนาที่เกิดเหตุระเบิด ขอให้ชุมชนคริสตชนและมุสลิมร่วมมือร่วมใจกันต่อไป เมืองนี้เป็นผู้นำแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและความสมานฉันท์มายาวนาน จะไม่ยอมให้การก่อเหตุรุนแรงมาบดบังความมุ่งมั่นที่มีต่อสันติภาพและความเป็นเอกภาพ เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่กำลังมีพิธีมิสซาเช้า เมื่อเวลา 07:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 06:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ที่โรงยิมของมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา เมืองมาราวี ซึ่งเป็นเมืองมุสลิมใหญ่ที่สุดของประเทศ มหาวิทยาลัยแถลงประณามการก่อเหตุรุนแรง งดการเรียนการสอน และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตำรวจเผยว่า กำลังตรวจสอบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง หรือการขว้างระเบิดเข้ามาในโรงยิม มีผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลาเนา เดล ซูร์ เผยว่า มีผู้กำลังรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมากกว่า 40 คน ภาพที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นเก้าอี้พลาสติกหลายตัวพลิกหงาย และซากความเสียหายรอบแผ่นปูสีดำบนพื้นโรงยิม นักศึกษาที่บาดเจ็บเผยว่า เหตุเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทุกคนพากันวิ่งหนี และหลายคนล้มขณะวิ่ง.-814.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 3 ธ.ค.- ตำรวจฟิลิปปินส์แจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 9 คน จากเหตุระเบิดที่โรงยิมของมหาวิทยาลัยทางตอนใต้ของประเทศในขณะที่กำลังมีการประกอบพิธีมิสซาของคริสตชน ตำรวจเผยว่า ทางการกำลังสอบสวนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็นการแก้แค้นของกองกำลังสนับสนุนรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุอยู่ในเมืองมาราวี ซึ่งเป็นเมืองที่เคยถูกกองกำลังเคร่งศาสนาอิสลามยึดไว้นาน 5 เดือนในปี 2560 นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากกองทัพฟิลิปปินส์แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ได้สังหารสมาชิกกองกำลังเคร่งศาสนาอิสลาม 11 คนในปฏิบัติการเมื่อวันศุกร์ในจังหวัดมากินดาเนา เดล ซูร์.-814.-สำนักข่าวไทย  

อูลานบาตอร์ 4 ก.ย.- สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกเสด็จเยี่ยมบ้านสงเคราะห์คนไร้บ้านและผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว ปิดท้ายการเสด็จเยือนมองโกเลียครั้งประวัติศาสตร์ สมเด็จพระสันตะปาปาพระชนมพรรษา 86 พรรษาเสด็จเปิดบ้านปรานี (The House of Mercy) ซึ่งเป็นบ้านสงเคราะห์คาทอลิกในย่านยากจน ชานกรุงอูลานบาตอร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเสด็จเยือนมองโกเลียเป็นเวลา 4 วัน สตรีจีนคาทอลิกกลุ่มหนึ่งเดินทางมาจากจีนหวังได้เห็นพระองค์อย่างใกล้ชิด พวกเธอตื้นตันใจและปาดน้ำตาเมื่อรถพระที่นั่งเสด็จผ่าน สมเด็จพระสันตะปาปาทรงโพสต์ในเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์เดิมเมื่อเครื่องบินพระที่นั่งทะยานออกจากมองโกเลียในช่วงหลังเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทรงขอบใจในมิตรภาพที่ได้รับจากชาวมองโกเลียและอวยพรให้แก่ทุกคน ทรงเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่เสด็จเยือนมองโกเลีย ข้อมูลของวาติกันนิวส์ระบุว่า ประเทศในเอเชียกลางแห่งนี้มีชาวคาทอลิก 1,500 คน จากประชากร 3 ล้าน 5 แสนคนในปี 2566 เทียบกับที่มีเพียง 14 คน ในปี 2538 ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นพิธีมิสซาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาทรงทักทายและส่งความปรารถนาดีไปยังชาวจีน หลังจากเมื่อวันเสาร์ทรงกล่าวในการประชุมมิชชันนารีว่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ไม่ต้องกลัวคริสต์จักรคาทอลิก นับเป็นการยื่นไมตรีให้แก่จีน 2 ครั้งในช่วงเวลาไม่กี่วัน ที่ผ่านมาสำนักวาติกันพยายามสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าไม่นับถือศาสนา และปีที่แล้วสามารถฟื้นข้อตกลงปี 2561 เรื่องให้ทั้งคริสต์จักรและรัฐบาลจีนมีสิทธิมีเสียงในการแต่งตั้งบิชอปในจีน.-สำนักข่าวไทย