ตรัง 3 ก.ค. – หนุ่มตรังวัย 25 ปี เปิดร้านขายอาหารทะเลสดริมถนนหน้าบ้านในราคาถูก และเปิดขายผ่านเฟซบุ๊ก ผลตอบรับดีเกินคาด
นายบูรณิช บูรณไพบูลย์ อายุ 25 ปี เรียนจบคหกรรมอาหารจากวิทยาลัยเทคนิคตรัง ก่อนจะไปเรียนต่อด้านการทำอาหารจากหลายสถาบัน และเคยเป็นเซฟอยู่โรงแรมชื่อดังทั้งใน จ.ตรัง และกรุงเทพมหานคร ตัดสินใจเปิดร้านอาหารทะเลเป็นของตัวเอง โดยใช้หน้าร้านขายอะไหล่รถยนต์ของคุณแม่ คิดสูตรการทำซีฟู้ดถาด โดยใช้อาหารทะเลสดใหม่ชนิดวันต่อวัน
ซึ่งส่งตรงมาจากชาวประมงพื้นบ้านใน อ.หาดสำราญ และ อ.สิเกา จ.ตรัง ผสมผสานเข้ากับเครื่องผัดน้ำพริกเผา ใบโหระพา กระเทียม รากผักชี และเครื่องเทศต่างๆ จนได้ที่ ขายในราคาถาดเล็ก 189 บาท ถาดกลาง 289 บาท และถาดใหญ่ 389 บาท ซึ่ง 1 ถาดจะมีกุ้งแชบ๊วย หอยหวาน ปูม้า ปลาหมึก และข้าวโพดหวาน หรือเป็นการนำอาหารทะเลทุกอย่างมารวมไว้ในจานเดียวกัน หากวันไหนมีกั้งก็จะใส่กั้งให้กับลูกค้าด้วย โดยถาดขนาดกลางราคา 289 บาท เมื่อปรุงสุกแล้ว จะมีน้ำหนักเกือบ 2 กิโลกรัม รับประทานได้ตั้งแต่ 3-4 คน โดยเสิร์ฟแบบไม่ธรรมดา คือเมื่อชั่งน้ำหนักและปรุงสุกแล้วจะนำมาเทใส่กระดาษฟอยล์ พับมุมทั้ง 4 ด้านให้เป็นถาด แจกถุงมือคนละ 1 ข้าง ให้ลูกค้าหยิบกินได้ตามใจชอบ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ สร้างบรรยากาศสมัยเด็กๆ ที่มานั่งล้อมวงกันเพื่อแย่งกันกินอาหาร
โดยเปิดมาแล้วประมาณ 12-13 วัน ขายตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. ซึ่งเปิดขายทางหน้าแฟนเพจและทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการขายความสดใหม่ส่งตรงจากทะเล ทำให้ไม่มีกลิ่นสาบ กลิ่นคาวและเนื้อล่ม นับเป็นซีฟู้ดถาดเจ้าแรกใน จ.ตรัง ที่เปิดขายริมถนน บริเวณหัวสะพานวังยาว เลขที่ 149/6 ถนนรัษฎา ในเขตเทศบาลนครตรัง
นอกจากนี้ยังมีข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล และอื่นๆ ซึ่งขายในราคาจานละ 40-50 บาท บางวันต้องสั่งจองโต๊ะล่วงหน้า และได้รับเสียงตอบรับเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นซีฟู้ดริมถนนที่มีราคาถูก คุ้มค่าคุ้มราคาในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งจะทำให้สามารถอยู่ด้วยกันได้ทั้งคนกินและคนขาย
ด้านนายบูรณิช บูรณไพบูลย์ วัย 25 ปี เจ้าของไอเดียซีฟู้ดถาด กล่าวว่า หลังเรียนจบคหกรรมก็ไปทำงานในโรงแรมต่างๆ โดยมองว่า จ.ตรัง มีอาหารทะเลที่อุดมสมบูรณ์ จึงคิดนำอาหารทะเลสดใหม่วันต่อวันหลากหลายชนิดมารวมไว้ในจานเดียวกัน ซึ่งเปิดมาแล้ว 8-9 วัน เสียงตอบรับดีขึ้น เนื่องจากขายผ่านทางเฟซบุ๊กและเพจซีฟู้ดถาด ขายหมดทุกวันทั้งในราคา 189-389 บาท โดยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย