กทม. 6 ก.ย.- ผู้เสียหายถูกหลอกไปทำงานนวดแผนไทยที่อินเดีย แต่กลับถูกบังคับค้าประเวณี วันละ 14 ครั้ง ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนนำเงิน 75,000 บาท ไถ่ตัวออกมา ร้องรองผบ.ตร.ช่วยเหลือ
ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ไปทำงานที่ประเทศอินเดีย นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเหลือ หลังจากสมัครไปทำงานนวดแผนไทย แต่กลับถูกหลอกไปค้าประเวณี และทำร้ายร่างกาย
ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงกลางเดือนสิงหาคม มีเพื่อนมาชวนไปทำงานเป็นพนักงานนวดที่ประเทศอินเดีย โดยอ้างว่าจะให้ใช้วีซ่าอยู่ได้ 6 เดือน พร้อมกับรายได้กว่า 1 แสนบาทต่อเดือน และหากอยู่ครบปีก็จะมีรายได้กว่าหนึ่งล้านบาท เพื่อนจึงส่งเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อกับนายหน้าจัดหางานชื่อ นางสาวอารยา หรือ กุ้ง ซึ่งเป็นคนดำเนินการทำเอกสารวีซ่า และตั๋วเครื่องบินให้ทั้งหมด โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
จากนั้นได้เดินทางในวันที่ 21 สิงหาคม เมื่อไปถึงเมืองมุมไบ จะมีทีมงานของนางสาวกุ้ง มารอรับ ก่อนที่จะพาไปที่เมืองสุรัช ซึ่งเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลา 6 ชั่วโมง เมื่อไปถึงก็พบว่าเป็นบ้านคล้ายอพาร์ทเม้นท์ และมีผู้หญิงคนไทยเป็นคนควบคุมสถานที่ ซึ่งถูกยึดพาสปอร์ตไปด้วย
แต่เมื่อถึงที่ทำงานที่เปิดเป็นร้านนวด แต่กลับพบว่าเป็นเพียงร้านนวดเปิดบังหน้าแต่กลับถูกไปค้าประเวณี ไม่ตามที่ตกลงกันไว้ และถูกบังคับให้ค้าประเวณีวันละ 14 ครั้ง รวม 8 วัน และบางครั้งก็ถูกทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บซิลิโคนแตก จนทำงานต่อไม่ไหว ทางคนดูแลก็ให้เพียงรับประทานยาแก้ปวด แต่ไม่ให้ไปโรงพยาบาล และบังคับให้ทำงานตามปกติ
จนกระทั่งทนไม่ไหวจึงพยายามติดต่อครอบครัวให้ช่วยเหลือ โดยต้องนำทองที่เก็บไว้ไปขายนำเงินมาไถ่ตัว 75,000 บาท และให้เพื่อนมาช่วยเหลือ แต่เมื่อมาถึงก็พยายามพากันหลบหนี แต่ก็ถูกกลุ่มชายชาวอินเดียตามมาและจับตัวไปขังไว้ที่ห้องที่สกปรกและมืด จากนั้นจึงใช้ความพยายามในการเจรจา จนสามารถติดต่อนายหน้าที่นำพาจนออกมาได้ โดยต้องเสียเงินค่าไถ่ตัวออกมา .-สำนักข่าวไทย