รพ.จุฬาภรณ์ ผลิตสารรังสีตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากสำเร็จ

สำนักข่าวไทย 30 มิ.ย.- รพ.จุฬาภรณ์ ผลิตสารรังสีพีเอสเอ็มเอ ใช้ในการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมากสำเร็จแห่งแรกของไทย พร้อมเตรียมจัดโครงการตรวจรักษาราคาพิเศษแก่ผู้ป่วย ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี


รศ.พญ.ชนิสา โชติพานิช ผู้อำนวยการศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ฝ่ายเวชศาสตร์นิวเคลียร์และเพทสแกน กล่าวในการแถลงข่าวความสำเร็จในการผลิตสารเภสัชรังสีจีเอ-พีเอสเอ็มเอ (GA-PSMA : Gallium-68 Prostate Speclfic Membrane) เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่แรกในประเทศไทย ว่า ศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ เปิดมากว่า 11 ปี ดำเนินการศึกษาหาวิธีการตรวจและให้การรักษาโรคมะเร็ง และโรคทางระบบสมอง ทั้งอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการผลิตสารเภสัชรังสีสำคัญมาแล้ว 7 ตัว ล่าสุดก็พัฒนาสารเภสัชรังสี ตัวที่ 8 หรือเรียกว่า สารจีเอ-พีเอสเอ็มเอ 68 เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่มีความแม่นยำและจำเพาะต่อโรคสูง โดยหลักจะฉีดให้กับผู้ป่วยโดยคำนวณจากน้ำหนักตัว การปรุงรังสีจะทำต่อเมื่อมีผู้ป่วยเข้ารับการตรวจ เนื่องจากอายุของรังสีมีเพียงครึ่งชีวิต อยู่นานได้แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นเมื่อเข้าสู่การทำเพทสแกน 30 นาที สารรังสีที่ฉีดจะเรืองแสงในจุดที่มีปัญหา ทำให้ตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้รวดเร็วขึ้น 


รศ.พญ.ชนิสา กล่าวว่า สำหรับกระบวนการพัฒนาสารรังสีนี้ได้พัฒนามาจากสารตั้งต้นในประเทศเยอรมนี ใช้กระบวนการศึกษา นับปี และพัฒนาสำเร็จได้ใน 1 วัน เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้เตรียมนำมาใช้รักษาผู้ป่วยภายในเดือน ก.ค.นี้ ราคาครั้งละ 25,000 บาท/ครั้ง ซึ่งเป็นราคาพิเศษที่ให้กับผู้ป่วยชาวไทย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ และมีการผลิตสารเพื่อจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลอื่นในราคาพิเศษด้วย โดยโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ประสานขอซื้อสารดังกล่าวเข้ามาแล้ว 


ด้าน นพ.วิสุทธิ์ ล้ำเลิศธน แพทย์อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา หัวหน้างานอายุรกรรม รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นโรคที่พบมากเป็นอันดับ 4 รองจากโรคมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก พบในผู้ชายวัย 50 ปีขึ้นไป โดยคนอายุ 70ปี พบได้ 90 ต่อแสนประชากร ส่วนวัย 75 ปี พบได้ 110 ต่อแสนประชากร ทั้งนี้ การใช้สารเภสัชรังสีดังกล่าวในกลุ่มผู้ป่วยเดิมที่ทำการอยู่รักษาแล้วดูว่าโรคกำเริบหรือไม่ ซึ่งจะมีความแม่นยำ ทำให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง