fbpx

ข้อโต้แย้ง The Last Train from Hiroshima บันทึกผู้รอดชีวิตระเบิดนิวเคลียร์ 2 ครั้ง

19 สิงหาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ไม่กี่เดือนหลังจาก The Last Train from Hiroshima หนังสือย้อนรอยชีวิตเหยื่อระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิวางจำหน่ายในเดือนมกราคม 2010 ผลงานของนักเขียน ชาร์ลส์ เปเยกริโน ก็ถูกถอดออกจากร้านหนังสือทั่วสหรัฐอเมริกา ในข้อหาบิดเบือนประวัติศาสตร์

The Last Train from Hiroshima เล่าถึงชีวิตของผู้คนในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิ หลังบ้านเมืองถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เมื่อในวันที่ 6 และ 9 สิงหาคมปี 1945


หนังสือเน้นไปที่เรื่องราวน่าเหลือเชื่อของ ทสึโตมุ ยามากุจิ เหยื่อจากระเบิดนิวเคลียร์เพียงรายเดียวที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้การรับรองอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทั้งในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิ

ทสึโตมุ ยามากุจิ

ผู้รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ 2 ครั้ง

ทสึโตมุ ยามากุจิ เป็นชาวเมืองนางาซากิ ทำงานเป็นพนักงานของบริษัท Mitsubishi Heavy Industries ในเมืองนางาซากิ


ช่วงฤดูร้อนของปี 1945 เขาได้รับมอบหมายให้เดินทางมาทำงานยังเมืองฮิโรชิมะเป็นเวลา 3 เดือน และเตรียมจะเดินทางกลับในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 แต่เนื่องจากลืมหมายสำคัญติดตัวมาด้วย ทสึโตมุ ยามากุจิ จึงต้องเดินทางกลับไปที่ทำงานอีกครั้ง

ในเวลา 8.15 น. ทสึโตมุ ยามากุจิกำลังเดินอยู่ที่บริเวณท่าเรือ ห่างจากจุดทิ้งระเบิดประมาณ 3 กิโลเมตร เขาได้เห็นเครื่องบินอเมริกันทิ้งระเบิดลงมาพร้อมกับร่มชูชีพด้วยตาตัวเอง จากนั้นไม่นานก็เกิดแสงสว่างไปทั่วท้องฟ้า ร่างเขาถูกผลักจากแรงระเบิด ตาของเขาบอดไปชั่วขณะ เยื่อแก้วหูฉีกขาด ร่างกายท่อนบนซีกซ้ายกลายเป็นแผลไหม้จากกัมมันตภาพรังสี

เมื่อได้สติอีกครั้ง เขาได้ออกตามหาเพื่อนร่วมงานที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ พวกเขาพากันไปพักค้างคืนที่ศูนย์หลบภัยการโจมตีทางอากาศของเมืองฮิโรชิมะ และเดินทางออกจากเมืองฮิโรชิมะด้วยรถไฟในเช้าวันถัดมา จุดหมายปลายทางคือบริษัท Mitsubishi Heavy Industries ในเมืองนางาซากิ

แม้จะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ทสึโตมุ ยามากุจิ ก็สามารถกลับไปรายงานตัวที่ทำงานในวันที่ 9 สิงหาคม 1945

ระหว่างเวลา 11.00 น. ทสึโตมุ ยามากุจิ กำลังเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองฮิโรชิมะ ให้กับผู้บังคับบัญชาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ระเบิดนิวเคลียร์ลูกที่ 2 ถูกทิ้งลงในเมืองนางาซากิ

แม้ที่ทำงานจะอยู่ห่างจากจุดทิ้งระเบิดประมาณ 3 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน แต่ ทสึโตมุ ยามากุจิ ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักจากการระเบิดครั้งนี้ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มีไข้สูง ซึ่งเป็นอาการของเหยื่อที่ได้รับกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดนิวเคลียร์

ชาร์ลส์ เปเยกริโน ผู้เขียนหนังสือ The Last Train from Hiroshima ประเมินว่า มีผู้โดยสารรถไฟเดินทางจากฮิโรชิมะไปยังเมืองนางาซากิประมาณ 300 คน และคาดว่า 90% จะเสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดที่เมืองนางาซากิ จึงเป็นไปได้ว่าจะมีผู้รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ 2 ครั้งอยู่ประมาณ 30 ราย โดย ทสึโตมุ ยามากุจิ คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ในเหตุการณ์ครั้งนั้น

แต่เดิม ทสึโตมุ ยามากุจิ ไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวของการรอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ถึง 2 ครั้งให้เป็นที่รับรู้ กระทั่งบั้นปลายชีวิต ทสึโตมุ ยามากุจิ ได้นำการรอดชีวิตของตนเผยแพร่สู่สาธารณะ ผ่านทางการตีพิมพ์หนังสือและการเดินทางไปเสวนาตามที่ต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้สังคมเห็นถึงภัยจากอาวุธนิวเคลียร์

การบิดเบือนประวัติศาสตร์และข้อมูลเท็จ

เรื่องราวของ ทสึโตมุ ยามากุจิ และเหยื่ออีกหลาย ๆ คนในหนังสือ The Last Train from Hiroshima ทำให้ผลงานของ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์หลายสำนัก

แต่หลังจากนั้นไม่นาน The Last Train from Hiroshima ก็ถูกกระแสตีกลับ เมื่อมีการเปิดโปงว่าข้อมูลหลายอย่างไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

หนึ่งในนั้นคือคำกล่าวอ้างของ โจเซฟ ฟูโอโก ผู้เสียชีวิตในปี 2008 ที่อ้างว่าตนเองได้รับการสลับตัวในนาทีสุดท้าย ให้มาเป็นนักบินที่ 3 (Flight Engineer) ของเครื่องบินที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมะ

อย่างไรก็ดี อดีตสมาชิกของฝูงบิน 509th Composite Group ในภารกิจการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิ ต่างออกมาปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว โดยไม่พบว่ามีนักบินที่ชื่อ โจเซฟ ฟูโอโก ประจำการในฝูงบิน 509th Composite Group แต่อย่างใด

ฝูงบิน 509th Composite Group

ชาร์ลส์ เปเยกริโน ยังถูกตั้งคำถามเรื่องวุฒิการศึกษา หลังอ้างว่าได้รับวุฒิดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 1982 ก่อนจะถูกปลดในภายหลัง ซึ่ง ชาร์ลส์ เปเยกริโน ชี้แจงผ่านทางเว็บไซต์ส่วนตัวว่า สาเหตุการปลดวุฒิการศึกษา เพราะเขาเคยแสดงความไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีวิวัฒนาการ (Evolutionary Theory) และได้รับวุฒิดุษฎีบัณฑิตคืนอีกครั้งในปี 1997 แต่การสอบสวนโดยมหาวิทยาลัยวิกตอเรียในปี 2010 ไม่พบว่า ชาร์ลส์ เปเยกริโน เคยได้รับวุฒิดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ยังถูกตั้งคำถามเรื่องการเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งศูนย์การศึกษาวิทยาศาสตร์อวกาศ Challenger Center อีกด้วย

เรื่องอื้อฉาวของ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ส่งผลให้สำนักพิมพ์ Henry Holt and Company ประกาศยุติการตีพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือ The Last Train from Hiroshima ในเดือนพฤษภาคม 2010

To Hell and Back

กระทั่งในปี 2015 ชาร์ลส์ เปเยกริโน ได้นำเรื่องราวของเหยื่อระเบิดนิวเคลียร์กลับมาถ่ายทอดอีกครั้งในหนังสือเล่มใหม่ที่ชื่อว่า To Hell and Back: The Last Train From Hiroshima

ในเล่มนี้ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ได้ทำการลบเนื้อหาที่เป็นข้อถกเถียงจากฉบับเดิม และเพิ่มเติมข้อมูลของเหยื่อรายอื่น ๆ เพื่อให้เรื่องราวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

The Last Train to Nagasaki

ชาร์ลส์ เปเยกริโน เคยเปิดใจว่า แต่เดิมเขาตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า The Last Train to Nagasaki เพื่อเน้นความสำคัญของเหยื่อที่เมืองนางาซากิให้เป็นที่รับรู้เทียบเท่ากับเมืองฮิโรชิมะ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครในสำนักพิมพ์รู้ว่านางาซากิหมายถึงอะไร สุดท้ายหนังสือจึงถูกตั้งชื่อเป็น The Last Train from Hiroshima ในที่สุด

แผนการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์

เมื่อต้นปี 2023 เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังชาวแคนาดา แสดงความสนใจที่จะนำ To Hell and Back: The Last Train From Hiroshima มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยมีแผนที่จะออกฉายก่อนภาพยนตร์ Avatar 4 ซึ่งมีกำหนดฉายในปี 2029 นี้

เจมส์ คาเมรอน และ ทสึโตมุ ยามากุจิ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.reuters.com/article/us-book-hiroshima-idUKTRE6220K720100303
https://historynewsnetwork.org/article/123636
https://apjjf.org/2015/13/26/Charles-Pellegrino/4336.html
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Last_Train_from_Hiroshima
https://en.wikipedia.org/wiki/Tsutomu_Yamaguchi
https://collider.com/james-cameron-directing-hiroshima-movie/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553