กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) ยื่นหนังสือถึง ก.เกษตรฯ ขอให้ชะลอหรือยกเลิก กฎกระทรวงการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ.2567 สมาชิกเดือดร้อนหนัก ผลตอบแทนลดจากการจำกัดการลงทุน
วันนี้ (22 ม.ค.) สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) ยื่นหนังสือถึงนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ขอให้ยกเลิกหรือชะลอการใช้กฎกระทรวงฯ ดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้สหกรณ์ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งพบว่าการจำกัดการลงทุน ส่งผลต่อการบริหารงานที่จะมีโอกาสในการทำรายได้เพื่อดูแลสมาชิกสหกรณ์ให้มีความกินดีอยู่ดี จนตอนนี้เกิดความขาดแคลนส่วนที่เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินงานของสหกรณ์ ส่งผลต่อการบริหารงานที่จะมีโอกาสในการทำรายได้เพื่อดูแลสมาชิกสหกรณ์ให้มีความกินดีอยู่ดี จนตอนนี้เกิดความขาดแคลนส่วนที่เป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินงานของสหกรณ์ เช่น การรับฝากเงินจากสมาชิกลดลง และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็ต้องลดลงเป็นลำดับ ในอนาคตอาจส่งผลให้เงินดอกเบี้ยของสหกรณ์น้อยกว่าสถาบันการเงินอื่น ๆ ส่งผลให้สหกรณ์ขาดสภาพคล่อง เพราะเกิดการย้ายเงินฝากจากภาคสหกรณ์ไปสู่สถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร ซึ่งเป็นธุรกิจทุนนิยม ที่ไม่เคยให้สวัสดิการใดๆ แก่ประชาชน ในขณะที่สหกรณ์ดูแลสวัสดิการให้กับสมาชิก ดังนั้นการยกเลิกกฎกระทรวงจะต้องเร่งยกเลิก หรือชะลอให้เร็วที่สุดก่อนที่ความเดือดร้อนจะลุกลามไปทุกสหกรณ์
ด้านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ฯ ยืนยันว่า ขอเวลาให้กรมฯ ได้ศึกษาถึงผลกระทบจากกฎกระทรวง เบื้องต้นยินดีที่จะทบทวนและแก้ไขความเดือดร้อน ภายในกรอบเวลา 30 วัน จะเชิญสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนมารับฟังข้อสรุปแนวทางแก้ไขความเดือดร้อน และขอให้ทางสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนสรุปความเดือดร้อนมายังกรมฯ ต่อไป
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) ที่ไปยื่นหนังสือวันนี้ ประกอบด้วยหลายองค์กร เช่น นายปัณฐวิชญ์ มุ่งสมัครศรีกุล และขบวนการสหกรณ์ ,ตัวแทนจากชุมชุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย, ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย, ประธานฯ เครือข่ายสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ, ประธานชุมชุมสหกรณ์ออมทรัพย์กลุ่มวิชาชีพทั่วประเทศ และผู้แทนสหกรณ์ภาคออมทรัพย์. -511-สำนักข่าวไทย