สงขลา 18 ส.ค. – อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สนธิกำลังฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ บุกค้นโกดัง และร้านขายบุหรี่เถื่อน เหล้าเถื่อน กลางเมืองหาดใหญ่ พบเคยถูกจับไปแล้วกลับมาเปิดใหม่ มีเงินหมุนเวียนเดือนละเกือบ 10 ล้านบาท
ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง และฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ ได้เบาะแสจากผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ว่าร้านบุหรี่ สุราผิดกฎหมาย ที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเคยนำกำลังเข้าจับเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ยังไม่ยอมเลิกกิจการ และกลับมาเปิดขายใหม่ โดยย้ายร้านห่างจากจุดเดิมไม่ถึง 100 เมตร เป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงมีการขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจสอบโกดัง 3 แห่ง ที่ลักลอบนำเข้าบุหรี่หนีภาษี ปลอมอากรแสตมป์ บุหรี่ไฟฟ้า สุราหนีภาษี ยาแก้ไอยาอันตรายที่เป็นส่วนผสมของยาเสพติด พบบุหรี่หนีภาษี บุหรี่ปลอมอากรแสตมป์ สุราหนีภาษี และยาแก้ไออันตรายจำนวนมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจนับ
นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครองสั่งการให้นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง (ศกปค.) พร้อมด้วยกำลัง
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับความเสียหายอย่างมากจากปัญหาการลักลอบนำสินค้าหนีภาษีเข้ามาขายในประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พบบัญชีรายรับของทางร้านมีรายได้เดือนละเกือบ 10 ล้านบาท และยังพบบัญชีส่วยเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน ซึ่งพนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุมจะได้ประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินร้านที่ถูกจับกุมไปแล้ว และร้านที่ถูกจับในครั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำอีกจะร่วมกับทางจังหวัดสงขลา กวาดล้างจับกุมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และหากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะแจ้งหน่วยงานดำเนินการสอบสวนทางวินัยต่อไป
“หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด หรือมีเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567 หรือแจ้งผ่านระบบรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ damrongdhama.dopa.go.th หรือแอปพลิเคชัน “Dopa Help” เพื่อเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือต่อไป” นายรณรงค์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย