ลอนดอน 16 ส.ค.- เอชแอนด์เอ็ม (H&M) ผู้ค้าปลีกแฟชั่นรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกกำลังสอบสวนเรื่องโรงงานผลิตสินค้าในเมียนมาถูกกล่าวหาว่ามีการกดขี่แรงงาน 20 ราย
เอชแอนด์เอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสวีเดนแถลงว่า กำลังตรวจสอบทุกกรณีที่ศูนย์ทรัพยากรธุรกิจและสิทธิมนุษยชนระบุว่า พบการกดขี่แรงงาน 20 รายในโรงงานที่ผลิตสินค้าให้แก่เอชแอนด์เอ็ม บริษัทกำลังแก้ไขผ่านทีมงานท้องถิ่นในพื้นที่ และประสานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างใกล้ชิด
ศูนย์ทรัพยากรธุรกิจและสิทธิมนุษยชนที่ตั้งอยู่ในอังกฤษออกรายงานว่า ตรวจพบการกดขี่แรงงานในโรงงานสิ่งทอเมียนมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ทั้งหมด 156 ราย เพิ่มขึ้นจาก 56 รายในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น สะท้อนว่าสิทธิแรงงานในเมียนมาเลวร้ายลงตั้งแต่มีการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ข้อกล่าวหากดขี่แรงงานที่พบมากที่สุดคือ การลดค่าจ้างและการโกงค่าจ้าง ตามมาด้วยการเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม การให้ทำงานหนักเกินไป และการบังคับทำงานล่วงเวลา
ด้านอินดิเท็กซ์ (Inditex) ของสเปนที่เป็นเจ้าของแบรนด์ซาร่า (Zara) ไม่แสดงความเห็นกรณีที่ถูกระบุในรายงานว่า มีการกดขี่แรงงาน 21 รายเกิดขึ้นในโรงงานที่ผลิตสินค้าให้แก่บริษัท แต่ได้ประกาศเป็นรายล่าสุดว่า จะตัดความสัมพันธ์กับโรงงานผลิตในเมียนมา หลังจากไพรมาร์ค (Primark) และมาร์กแอนด์สเปนเซอร์ (Marks & Spencer) ประกาศไปเมื่อปี 2565.-สำนักข่าวไทย